โอโตยะ (OOTOYA) เตรียมทุ่มงบการตลาด หวังขึ้นแท่นผู้นำตลาดต้นตำรับอาหารญี่ปุ่น สไตล์โฮมเมด

โอโตยะ (OOTOYA) ต้นตำรับอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมด แบบฉบับคุณแม่ชาวญี่ปุ่น (Japanese Mom’s Cooking Style) ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวญี่ปุ่น และชาวไทย บริหารงานโดยบริษัท ซีอาร์จี อินเตอร์-เนชั่นแนล ฟู้ดส์ จำกัด (CRGI) ฉลองจัดทริปญี่ปุ่นพร้อมเปิดแกรนด์เมนู จัดเต็มชุดอาหารสุขภาพ ตอบโจทย์กระแสสุขภาพ ทั้งคุณภาพและราคา เตรียมทุ่มงบการตลาดอย่างต่อเนื่อง หวังขึ้นแท่นผู้นำตลาดต้นตำรับอาหารญี่ปุ่น สไตล์โฮมเมด แบบฉบับคุณแม่ชาวญี่ปุ่นในปี 2560 และรุกตลาดต่างประเทศทั้ง CLMV และการก้าวสู่ตลาด AEC ในปลายปีนี้ (2558)

อำไพพรรณ จิราธิวัฒน์ ประธาน (แบรนด์โอโตยะ) – บริษัท ซีอาร์จี อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู้ดส์ จำกัด (CRGI) เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์การปรับแผนงานขยายธุรกิจของ โอโตยะ ว่า “เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสุขภาพ และรักการท่องเที่ยว โอโตยะ จึงได้จัดแคมเปญใหญ่ ลุ้นทริปเที่ยวญี่ปุ่น มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท โดยได้รับความร่วมมือกับทางเซ็นทรัลพัฒนา CPN จัดแคมเปญ “โอโตยะ ฉลองเมนูใหม่ อิ่ม-หมี-ฟรี-มัน” ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ โอโตยะ ภายในศูนย์ซีพีเอ็นทั้ง 17 สาขา ได้มีโอกาสลุ้นทริปญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม - 27 ธันวาคม 2558 นอกจาก แคมเปญใหญ่ ลุ้นทริปเที่ยวญี่ปุ่น แล้ว โอโตยะ ยังให้สิทธิ์ลุ้นรับคูปองส่วนลด และเมนูพิเศษเมื่อทานอาหารครบ 300 บาทเป็นต้นไป

นอกจากนี้ โอโตยะ ยังได้ปรับแกรนด์เมนูใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความหลากหลายของเมนูที่ปรุงสุดฝีมือด้วยหัวใจแบบฉบับคุณแม่ชาวญี่ปุ่น

อำไพพรรณ กล่าวถึงภาพรวมตลาดธุรกิจอาหารญี่ปุ่น และแนวโน้มธุรกิจว่า “มีกระแสเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารแนวรักษาสุขภาพ รับประทานได้บ่อยๆ ไม่เลี่ยน ไม่ทำให้อ้วน และแสดงถึงความมีไลฟ์สไตล์รสนิยมที่ดี จึงมีโอกาสทางธุรกิจที่ดี ด้านภาพรวมธุรกิจอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปี 2558 มีการแข่งขันรุนแรง โดยมีอัตราการเติบโตเพียง 7-9 เปอร์เซ็นต์ แนวโน้มธุรกิจจะมี Big Player ต่างๆ โดยรายหลักๆ จะให้ความสำคัญกับ 4 องค์ประกอบ ได้แก่

1. Networking ขยายสาขาให้ครอบคลุมมากที่สุด (ในทำเลห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์) >> เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า easy access ในการเข้าถึงร้านค้า

2. Product Varity ความหลากหลายให้กับสินค้า นำเสนอรูปแบบอาหารที่แปลกใหม่และสอดคล้องกับรูปแบบการรับประทานอาหารนอกบ้านของลูกค้ากลุ่ม เป้าหมายอีกด้วย ไม่ว่าจะด้านรสชาติอาหาร ความแตกต่างและความหลากหลายของอาหาร

3. Unique Selling Points จุดต่างของแบรนด์ ความโดดเด่น การตกแต่งร้าน ฯลฯ

4. Value Added การให้บริการนอกเหนือความคาดหมาย หรือการจัดโปรโมชั่น การรับส่วนลดได้ ล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกร้านอาหารไม่น้อยไปกว่าปัจจัยด้านราคาอย่างเดียว

สำหรับ โอโตยะ เราตั้งเป้าที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าและการบริการแบบ 360 องศา ด้วยการกำหนดกลยุทธ์โดยรับฟังความคิดเห็นมุมมองใหม่ๆ จากลูกค้ามากขึ้น เชื่อว่าหากเรา เรียนรู้ให้เร็ว ---> ตอบโจทย์ลูกค้า ---> นำเสนอสิ่งที่มีคุณค่า ---> จะอยู่ในใจผู้บริโภคได้ตลอดกาล” ภวิชช์ อ่ำทิม ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ โอโตยะ เปิดเผยถึงงบประมาณด้านสื่อสารการตลาดของโอโตยะ ในปี 2558-2559 ว่า

“โอโตยะ จะยังคงเน้นเมนูอาหารชุดสไตล์ โฮมเมดที่หลากหลาย และกิจกรรมส่งเสริมการขายสร้าง Value Added ให้ลูกค้าโอโตยะ อย่างต่อเนื่อง และในแต่ละแคมเปญเรายังคงใช้สื่อโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ต่อเนื่อง โดยในปี 2558 เราใช้งบการตลาดประมาณ 60 ล้านบาท ในปี 2559-2560 จะใช้เพิ่มขึ้น ประมาณ 20-25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อสื่อสารให้ครอบคลุม โดยผ่านสื่อ OHM (Out Of Home Media) ที่หลากหลายซึ่งเหมาะกับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้า โอโตยะ ที่เป็นวัยทำงาน On The Move ตลอดเวลา ทั้งในสื่อ TV วิทยุ บีทีเอส และบิลบอร์ดต่างๆ รวมถึงสื่อ Social Media และ Mobile Application ต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้านิวเจนฯ และวัยทำงานซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก และจากกลางปีที่แล้ว 2557 ที่ โอโตยะ ได้มีการสื่อสารผ่านโฆษณาทีวีเป็นครั้งแรก ทำให้เราขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น 20-30 เปอร์เซ็นต์ และขณะเดียวกันลูกค้าก็เข้าถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์ โอโตยะ ที่แตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป” อำไพพรรณ กล่าวถึงแผนงาน และทิศทางธุรกิจของโอโตยะ ว่า สำหรับแผนงานในปีหน้า 2559 นี้ โอโตยะ มีแผนการปรับปรุง พัฒนา-ร้าน และเมนูอาหาร เพื่อขานรับกระแสตลาดอาหารญี่ปุ่นที่เติบโตต่อเนื่อง 10-15 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี พร้อมเตรียมขึ้นผู้นำตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมดในปี 2560 นอกจากนี้เราเตรียมจัดทัพรุกตลาด CLMV และการก้าวเข้าสู่ตลาด AEC ในปลายปีนี้ 2558 เพราะถือเป็นโอกาสที่ดีทั้งในการตั้งรับและการรุกตลาดเอเชีย

• ในปี 2559 โอโตยะ ได้เตรียมพร้อมพนักงานให้พร้อมกับการบริการ และฝึกอบรมพนักงานให้ทำงานตามมาตรฐานที่ญี่ปุ่นกำหนดอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน กับต้นตำรับญี่ปุ่นหากต่างชาติที่รู้จัก โอโตยะ อยู่แล้วก็จะเข้ามารับประทาน และจะได้รู้สึกว่า เหมือนรับประทานที่ โอโตยะ ประเทศอื่น และบอกต่อๆ กันไป

• ส่วนโอกาสในการรุกตลาดนั้น ทาง CRGI ได้รับมอบสิทธิ์ในการเปิดสาขาโอโตยะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ดังนั้นเราจึงเตรียมพร้อมที่จะขยายสาขาไปในต่างประเทศ ตามที่ห้างเซ็นทรัลจะได้เปิดตัวในแถบภูมิภาคอาเชียนในอนาคต..โดยยึดหลักปรัชญาในการทำงาน คือ “เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตที่แข็งแรงสมบูรณ์ โดยผ่านการนำเสนออาหาร และบริการที่ดี เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า และเพื่อพัฒนามนุษยชาติส่วนรวม

ทั้งนี้ “โอโตยะ” มีงบลงทุน 150 กว่าล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น 60:40 ได้แก่ งบการขยายสาขาการตกแต่งร้าน และงบการตลาด โดย “โอโตยะ” ได้ตั้งเป้าการขยายสาขา เพิ่มอีก 5 สาขา คาดภายในสิ้นปี 59 จะมีสาขาราว 52 สาขา ครอบคลุมกรุงเทพฯ และหัวเมืองแหล่งท่องเที่ยว ข้อมูลเกี่ยวกับภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น “โอโตยะ”

โอโตยะ ถือเป็นเจ้าตำรับอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมด Japanese Mom’s cooking ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทยและชาวญี่ปุ่น มากว่า 50 ปี ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ซีอาร์จี อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู้ดส์ จำกัด (CRGI) โดย บริษัท เซ็นทรัล เรสเตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ได้ซื้อกิจการของโอโตยะ เมื่อเจ้าของกิจการที่ญี่ปุ่นประกาศขาย เมื่อปี 2554 มีสาขาในญี่ปุ่นมากกว่า 300 สาขา และสาขาในต่างประเทศมากกว่า 60 สาขา เช่น ไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง อินโดนีเชีย ไต้หวัน จีน อเมริกา

#NewsReport