รพ.จุฬาภรณ์-ไทยประกันชีวิต ออกหน่วยแพทย์ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแก่สตรีชาติพันธุ์เมืองน่าน ฟรี 500

รพ.จุฬาภรณ์ จับมือไทยประกันชีวิต ออกหน่วยแพทย์ โครงการ “แม่หญิงม่วนใจ๋ ปลอดภัย ห่างไกลมะเร็งปากมดลูก” ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแก่สตรีชาติพันธุ์ในพื้นที่ จ.น่าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จำนวน 500 ราย วันที่ 9-12 พ.ย.นี้

นางสาวภาสินี ปรีชาธนาพล กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ เปิดเผยว่า “โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับมูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ โดยบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) จัดโครงการ “แม่หญิงม่วนใจ๋ ปลอดภัย ห่างไกลมะเร็งปากมดลูก” นำทีมแพทย์-พยาบาลจากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมเด็จยุพราชปัว จ.น่าน และฝ่ายขายจิตอาสาจากไทยประกันชีวิต(CSR Volunteer) ร่วมออกหน่วยแพทย์ให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและบริการการแพทย์อื่นๆ แก่สตรีชาติพันธุ์ในจ.น่าน ได้แก่ ชาวเขาเผ่าม้ง เมี่ยน ขมุ ลัวะ และมลาบรี ที่มีอายุระหว่าง 30-60 ปี จำนวน 500 ราย”

ทั้งนี้ หน่วยแพทย์กำหนดให้บริการตามโครงการ ในวันที่ 9-12 พ.ย.58 โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลในพื้นที่ ได้แก่ วันที่ 9 พ.ย.58 ณ รพ.สต.บ้านน้ำกิ อ.ท่าวังผา, วันที่ 10 พ.ย.58 ณ รพ.บ้านสบเป็ด อ.ท่าวังผา และรพ.สต.ป่ากลาง อ.ปัว, วันที่ 11 พ.ย.58 ณ รพ.สต.บ้านภูคา อ.ปัว และวันที่ 12 พ.ย.58 ณ รพ.บ่อเกลือ ซึ่งผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถแสดงความจำนงขอรับบริการได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ สถานพยาบาลที่ให้บริการตรวจเท่านั้น

สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ จะได้รับบริการตรวจหาชนิดของเชื้อไวรัส HPV (human papilloma virus) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เซลล์เยื่อบุปากมดลูกพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูก ร่วมกับการตรวจเซลล์มะเร็งปากมดลูกแบบแผ่นบาง ซึ่งเป็นแนวทางการศึกษาวิจัยความชุกของการติดเชื้อ HPV แต่ละสายพันธุ์ นอกจากนี้ หน่วยแพทย์ยังได้จัดให้บริการตรวจเลือดขั้นพื้นฐาน ตรวจหาเบาหวาน ตรวจค่าการทำงานของไต ตรวจหาพาหะธารัสซีเมีย และการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบB และ C รวมถึงการเก็บโลหิตเข้าคลังเนื้อเยื่อ (Tissue Bank) เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ต่อไป

“เราเล็งเห็นว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มสตรีชาติพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ห่างไกลความเจริญและไม่มีโอกาสเข้าถึงสถานพยาบาล สอดคล้องกับแนวทางของมูลนิธิฯ และไทยประกันชีวิตในการมุ่งมั่นพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิต และสร้างความเท่าเทียมกันให้แก่คนในสังคม อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนงานด้านการวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ อันจะเป็นประโยชน์ในด้านการป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง รวมถึงการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จึงขอเชิญชวนพี่น้องในพื้นที่เป้าหมาย แสดงความจำนงเข้ารับบริการตรวจตามวันเวลาที่กำหนดไว้” นางสาวภาสินี กล่าวทิ้งท้าย

#NewsReport