สันติ วจนพานิช (ฮอน) แก้ปัญหาในใจ ใหญ่ที่สุด
- advancedbizmagazine
- 26 ต.ค. 2558
- ยาว 2 นาที

มนุษย์ต้องทำงาน เมื่อทำงานก็ต้องการความสำเร็จ หากสำเร็จก็ยินดี หากมีปัญหาหรือล้มเหลวก็เสียใจ หดหู่ ท้อถอย ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง แต่สันติ วจนพานิช (ฮอน) เขามีวีธีแก้ปัญหาที่น่าคิดและแตกต่างจากนักธุรกิจอื่นๆ จนประสบความสำเร็จ ก็คือแก้ปัญหาในใจ วางใจเป็นกลาง ยอมรับความเป็นจริงมีสติกับปัจจุบัน และแก้ไขทีละจุด จนสามารถผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้
สันติ วจนพานิข (ฮอน) ผ่านการทำงานมามากมาย เช่นเป็น Co-Founder/ Marketing & Sale Manager at TDH Prestigious Dermatology Co.,ltd (ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห้อ Weisse ไวส์เซ่) เป็น Managing Director at 24NT Co.,ltd (เสื้อผ้า Thai Designer Brand ยี่ห้อ NICHA) และ Co-Owner at ร้านอาหาร สตั๊น 3 วิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นศิลปินใหม่ค่าย Yes! Music ในเครือ RS กับซิงเกิ้ลแรกในชีวิต “พยายามไม่คิด” ครับ
เริ่มสนในเรื่องเพลง นักร้อง มากแค่ไหน นั้น สันติ วจนพานิช (ฮอน) ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมตั้งใจกับการเป็นศิลปินมาก เพราะเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ในชีวิตผม นอกจากการดูแลตัวเอง และทำให้คนในครอบครัวสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงผม ก็เหลือการร้องเพลงได้เป็นศิลปินนี่แหละที่เพิ่งจะทำสำเร็จ ก่อนที่จะได้มาเป็นศิลปิน ฮอน ได้สมัครไปประกวดร้องเพลงอยู่หลายเวที ก็ยังไม่สำเร็จจนมาถึงช่วงมหาวิทยาลัย ฮอนได้มีโอกาสเป็นนักร้อง CU Band จนมีพี่ๆ ทีมงานจากอาร์เอสมาเห็นและลองเรียกไปเทสครั้งแรกก็ยังไม่ได้ เงียบหายไปนาน จนตัดใจแล้วแต่ได้รับโอกาสอีกครั้งไปร้องโชว์ให้พี่ๆ โปรดิวเซอร์หลายๆ คนฟัง และ โชคดีมากที่ครั้งนี้ผ่านมาได้ จนมีเพลงของตัวเองซิงเกิ้ลแรกในชีวิต เพลง “พยายามไม่คิด” และตอนนี้ก็ได้ถ่ายมิวสิควิดีโอของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ฮอนแสดงเองด้วย ทั้งร้อง ทั้งแสดง และได้มีส่วนร่วมในการทำเพลงหลายอย่างเพื่อให้เพลงออกมาเหมาะกับตัว ฮอน มากที่สุด และก็ออกมาเป็นเพลงที่ชอบมากจริงๆ เรียกว่าเป็นโอกาสที่ดีมากในปีนี้ของผม ต้องขอบคุณค่าย Yes! Music ในเครือ RS ที่เปิดโอกาสให้ผมได้สัมผัสงานร้องเพลงที่ฝันไว้ ผมว่าผมโชคดีนะได้มีโอกาสทำเพลง แถมได้ทีมโปรดิวเซอร์ดี ทำให้งานเพลงแรกในชีวิตของผมออกมาอย่างที่ผมตั้งใจไว้”
และท่านผู้อ่านสามารถลองฟังเสียงร้องของฮอน ในเพลง “พยายามไม่คิด” และ สามารถติดตามฟังเพลง “พยายามไม่คิด” ของ “ฮอน เยส มิวสิค” กันได้แล้วที่แอพฯ LINE MUSIC หรือ iTunes และดาวน์โหลดได้ที่ *339235 IG / Facebook /YouTube: rsfriends ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่ www.rsfriends.com”
ในเรื่องการบริหารเวลาของสันติทั้งที่เป็นทั้งศิลปิน และนักธุรกิจนั้น เขากล่าวว่า “คือจริงๆ ฮอนจะแบ่งเวลาไว้สำหรับงานเพลงและธุรกิจ แต่ตอนนี้เวลาส่วนใหญ่ค่อนข้างทุมเทให้กับงานเพลงซิงเกิ้ลแรกของผมอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องธุรกิจ ฮอน ก็ยังไม่ได้ทิ้งนะครับ เพราะเราจะคอยเช็คและอัพเดตงานอยู่ตลอด จะพยายามบริหารเวลาให้ลงตัวที่สุดทั้งเรื่องงานเพลงและธุรกิจ ซึ่งก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรครับ ทุกอย่างลงตัวดี”

ส่วนการเปลี่ยนแปลงงานหรือการดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญ โดยเฉพาะการมาเข้าสู่อาชีพนักร้องของสันตินั้น “ด้วยความที่เราเห็นคุณพ่อคุณแม่ทำธุรกิจมาตั้งแต่เรายังเด็กๆ ทำให้ฮอนมีโอกาสได้เรียนรู้งานบริหาร จำได้ว่าตอนเด็กมีโอกาสได้ไปต่างประเทศบ่อยมากกับครอบครัว แล้วเราสังเกตว่าสิ่งของที่ต่างประเทศมักจะถูกกว่าในประเทศไทยเยอะ เลยเป็นที่มาให้ฮอนเริ่มนำเข้าของมาขายในเว็ปไซต์ ช่วงนั้นผลตอบรับก็ดีประมาณหนึ่งครับไม่ได้มากมายอะไร แต่ตอนนั้นก็ดีใจมากแล้วเพราะเราสามารถหาเงินได้เอง แล้วก็ทำมาได้สักพักจนมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัย เราก็คิดว่าจะทำอะไรต่อดีนอกจากวิศวกรรมศาสตร์ยานยนต์ที่เราเรียนมา ก็เลยคิดว่าเราต้องทำในสิ่งที่ชอบและมีความสุขสิ สุดท้ายก็ได้มีโอกาสก่อตั้งบริษัท “TDH Prestigious Dermatology” กับรุ่นพี่สนิทที่เป็นนักวิจัย ซึ่งบริษัทเราจะเป็นบริษัทที่ผลิตสารเคมีเรียกว่า “Nano Calcium Carbonate” ซึ่งเราจดสิทธิบัตรเรียบร้อย เพราะเป็นสารที่ผลิตได้ยากมาก และเราเป็นเจ้าเดียวที่นำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง จึงได้เกิดเป็นแบรนด์ Weisse (ไวส์เซ่) ซึ่งจุดนี้เอง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพราะเราจะต้องวิ่งไปเสนอครีมเราตามคลีนิค และโรงพยาบาลต่างๆ จากลูกคุณหนูที่ไม่เคยทำ กลายมาเป็น Retail ยา ที่ต้องง้อ ลูกค้า ต้องรอเป็นเวลานานๆ ทำให้อีโก้ทุกอย่างที่เคยมีค่อยๆ ละลายหายไป ถ้าพูดถึงการเปลี่ยนแปลงงาน ทุกงาน ฮอน ชอบความท้าทายเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนตัดสินใจมาร่วมหุ้นกับเพื่อนทำร้านอาหาร โดนเพื่อนทาบทามให้มาเป็น MD ของแบรนด์เสื้อผ้า รวมไปถึงการเป็นศิลปินใหม่ ทุกอย่างล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงในตัว ฮอน ทั้งสิ้น แต่ที่แน่ๆ ที่เราจะไม่เปลี่ยนคือ การดำเนินธุรกิจอย่างขาวสะอาด และซื่อสัตย์ต่อลูกค้า
...ปัจจุบันสิ่งที่ต้องเข้าไปดูแลมากที่สุดคงจะเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ NICHA เนื่องจากว่าเสื้อผ้าการแข่งขันทางตลาดสูงมากๆ ยกตัวอย่างเปรียบ NICHA เป็นลูกหนึ่งคน ลูกคนนี้เป็นคนที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้นเราต้องดูแลให้ดีที่สุด และให้เขาเติบโตได้อย่างมั่นคง ส่วนร้านอาหาร กำลังอยู่ในช่วงวางแผนขยายสาขา และเครื่องสำอางก็กำลังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเป็นตัวเลือกเพิ่มให้ลูกค้า เพื่อตอบโจทย์หลังจากการได้ทำแบบทดสอบกับกลุ่มเป้าหมาย
...และผลการดำเนินงานของบริษัทที่ผ่านมานั้นเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นแบบทีละสเต็ป ค่อยๆ พัฒนาเพราะ ฮอน ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องกำไรมหาศาล แต่ขอให้ตรงเป้าหมายกับสิ่งที่ได้ทำครับ ซึ่งปัจจุบัน Weisse มีสินค้าวางขายที่สยามพารากอน, Digital Gateway ร้านขายยาทั่วไป คลีนิค และโรงพยาบาลวิภาวดี ร้านอาหาร สตั๊น 3 วิ เป็นร้านอาหารที่รู้จักอย่างดีในหมู่นักศึกษาธรรมศาสตร์ ส่วน NICHA มี Flagship Store อยู่ที่สยามพารากอน และ Emquartier ครับ ...จริงๆ ตอนนี้กิจการทุกอย่างยังไม่อยู่ในจุดที่ภาคภูมิใจ เพราะผมมองว่ามันยังสามารถไปได้อีกไกลมากๆ แต่ถ้าให้เลือกมาหนึ่งอย่างจริงๆ คงเป็นผลงานการร้องเพลงมากกว่า ที่เราได้ออกซิงเกิ้ล “พยายามไม่คิด” กับค่าย Yes! Music เนื่องจากมันเป็นความฝันเราตั้งแต่เด็กเลย จนในที่สุดวันนี้ก็ได้มีซิงเกิ้ลแรก “พยายามไม่คิด” หลังจากที่พยายามมาหลายครั้งจนเกือบจะถอดใจไปแล้วว่าเราคงเป็นไปไม่ได้ แต่ทุกวันนี้คนในครอบครัวก็ดีใจไปกับเราด้วย เชียร์และให้ความสนับสนุนเต็มที่ ทำให้ทุกวันนี้ ฮอน ออกมาทำงานอย่างมีความสุขมากในแต่ละวัน”
ในแง่ของการทำงาน สันติ วจนพานิช (ฮอน) มีหลักการทำงานได้ให้แง่คิดว่า “ทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่เป็น คือไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ใด ต้องมั่นใจว่าเราได้ทำมันดีที่สุดแล้ว จะได้ไม่เสียใจภายหลังหากมันไม่สำเร็จไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม และอีกข้อหนึ่งคือ การคิดดี ทำดี ฮอนเชื่อว่าสิ่งนี้จะดึงดูดทุกอย่างที่ดีๆ เข้ามาในชีวิตอย่างเหลือเชื่อและในเรื่องของหลักการดำเนินชีวิตนั้นเขามีข้อคิดว่า “ให้มีสติในทุกๆ การกระทำ คือให้ไตร่ตรองก่อนทำอะไรทุกอย่าง เวลามีอารมณ์โมโห หรือดีใจ อย่าเพิ่งไปตัดสินใจอะไร เพราะตอนนั้นจิตใจเรายังไม่ได้เป็นกลาง แต่เมื่อใจเรานิ่งที่สุดค่อยตัดสินใจอย่างมีสติ”
ชีวิตของฮอนสนใจเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ จึงทำให้เขามุ่งมั่นในเรื่องการทำเพลงมากที่สุด เขากล่าวว่า “เพราะโอกาสนี้เรารอมาตั้งแต่เด็กและสุดท้ายโอกาสมันมาถึงเราแล้ว ก็อยากจะตั้งใจทำเพลงให้ได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้หวังที่จะดังมากมาย แค่มีคนที่ฟังเพลง “พยายามไม่คิด” แล้วชอบ ร้องตาม หรือเข้ามาคอมเม้นให้ ก็รู้สึกดีใจมากแล้วครับ”
บุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สำคัญสำหรับเขานั้น “จะเป็นใครไม่ได้เลยนอกจากคุณพ่อ คุณแม่ ทุกอย่างที่เราทำไป เพื่อต้องการให้ท่านหายห่วงเรา ให้ท่านนั่งสบายๆ รอดูความสำเร็จของเรา ท่านเหนื่อยมามากแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องรีบสร้างความมั่นคงเพื่อดูแลท่านแล้ว”
เมื่อกลับมามองในแง่การบริหารแล้วสันติมีข้อคิดถึงการจะผลักดันให้องค์กรและพนักงานเป็นไปตามทิศทางและเป้าหมายของบริษัท “สำหรับผม การที่จะได้ใจคนที่ต้องเริ่มต้นที่ความจริงใจ และเปิดใจกับพนักงานในบริษัท ที่สำคัญอีกอย่างคือการแสดงต้นแบบที่ถูกต้อง หากเราชี้นิ้วสั่งเป็นอย่างเดียว แน่นอนว่าไม่น่าจะมีใครเคารพเราจากใจจริง แต่หากทำทุกอย่างดีแล้ว แต่เป็นที่ทัศนคติของบุคคลๆ นั้น เราจำเป็นต้องกำจัดเขาเพื่อ Teamwork โดยรวมขององค์กร
...และเมื่อเกิดความผิดพลาดหรือวิกฤติในธุรกิจจะมีวิธีตั้งรับหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยวิธีแก้ปัญหาอย่างแรกที่สุดคือการแก้ปัญหาในใจเรา ผมว่าปัญหาในใจใหญ่ที่สุด และหนักหนาที่สุด เพราะมันจะไปกระทบต่อทุกๆ สิ่งสมมติมีปัญหาเข้ามา 108 อย่าง ผมมั่นใจว่าถ้าเราแก้มันทีละจุด อย่างมากก็แก้ 108 ครั้ง ปัญหาก็จะหมดไป ในทางกลับกัน หากเราเอาปัญหา 108 อย่างเข้ามาแก้พร้อมกัน มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะแก้หมดในทีเดียว ดังนั้นเริ่มต้นที่วางใจเป็นกลาง ยอมรับความจริง มีสติกับปัจจุบัน และแก้ไขทีละจุด ผมเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีครับ

...และการเปิดเสรีการค้าโดยเฉพาะการเปิดเสรีตลาดอาเซียน (AEC) โดยในด้านของ NICHA เราได้มีการหา Buyer จากต่างประเทศเช่น จีน และวิเคราะห์ความต้องการของชาวต่างชาติมากขึ้น เพื่อจะเอามาพัฒนาใน Collection ต่อๆ ไป ให้มีความต้องการของคนต่างชาติมากขึ้น ในด้านของ Weisse เราได้มีการตีงานวิจัยสาร Nano Calcium Carbonate สู่ระดับสากลเพื่อที่จะมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เพื่อแสดงถึงมาตรฐานสากล ในด้านของร้านอาหารสตั๊น 3 วิ เราก็เริ่มมีเมนูเป็นภาษาอังกฤษเพื่อรับรองลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากอาหารหลักๆ เราก็เป็นอาหารไทยยอดนิยมอยู่แล้ว ส่วนการสั่งอาหารก็ใช้เป็น ติดตัวเลขเอา พนักงานร้านจะได้ไม่งง หากสื่อสารไม่รู้เรื่อง”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเริ่มธุรกิจสิ่งที่อยากแนะนำให้ทุกคนก็คือ “ความอดทน สำคัญที่สุดครับ หลายคนมักมองถึงความเท่ เป็นอันดับแรกในการเป็นนายของตัวเอง ต่อมาก็เป็นเรื่องของรายได้ที่ดีกว่าการเป็นพนักงานประจำ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่จะถึงจุดนั้นได้ ต้องผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมาย เปรียบเหมือนภูเขาน้ำแข็ง ที่เราเห็นเกาะน้ำแข็งลอยบนน้ำใหญ่ๆ จริงๆ แล้วเป็นเพียงไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ของทุกอย่างที่คนๆ นั้นได้ผ่านมา ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มธุรกิจจริงๆ อยากให้ถามใจตัวเองก่อนว่าเราพร้อมที่จะรับผิดชอบในทุกๆ เรื่องที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคตจริงๆ หรือไม่ รวมถึงเราจะมีสติพอที่จะแก้ปัญหามันรึเปล่า ถ้าตอบตัวเองได้เมื่อไร ก็ลุยเลยครับ” สันติ วจนพานิช (ฮอน) กล่าวทิ้งท้าย
Comments