แจ้งเกิด…“แจ้งวัฒนะ” โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงสาขา 3 “Boutique Industrial Design” ความบันเทิงเหนือระด
- advancedbizmagazine
- 9 ต.ค. 2558
- ยาว 2 นาที

โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ทุ่ม 200 ล้านสยายปีกสาขา 3 ย่านแจ้งวัฒนะ ยกระดับความหรูหรา สไตล์ Boutique Industrial เนรมิตเวทีการแสดง แสง สี เสียง พร้อมโชว์ตระการตาเต็มรูปแบบ รื่นรมย์กับความบันเทิงเหนือระดับแบบครบวงจร ดื่มด่ำเบียร์สดและลิ้มรสความอร่อยของเมนูยอดฮิต เอาใจคอซูชิกับอาหารญี่ปุ่นสดใหม่ และยิ่งใหญ่ด้วยความจุ 1,200 ที่นั่ง พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้

สุพจน์ ธีระวัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง 1999 จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงทั้ง 2 สาขา คือ พระราม 3 และ รามอินทรา จะเห็นได้ว่าธุรกิจโรงเบียร์มีการเติบโตขึ้นทุกปี มีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นทั้งในลักษณะสังสรรค์กับครอบครัวและ กลุ่มเพื่อนฝูง รวมถึงการจัดเลี้ยง โดยเฉพาะสาขารามอินทราที่ได้รับความนิยมจากหน่วยงานต่างๆ เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดใหญ่ จุคนได้มากกว่า 2,000 คน ที่สำคัญคือ ความพร้อมที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ และมาตรฐานในรสชาติอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่ามาถึงทุกวันนี้ ดังนั้นการเปิดโรงเบียร์เยอะมันตะวันแดงสาขาแจ้งวัฒนะในเดือนสิงหาคมนี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม แม้หลายคนจะมองว่าสวนกระแสเศรษฐกิจก็ตาม
“จริงๆ ผมอยากจะเปิดสาขาแจ้งวัฒนะมา 3-4 ปีแล้ว แต่ยังหาทำเลไม่ได้ เนื่องจากเราทำโรงเบียร์ฉะนั้น เราต้องมีขนาดของพื้นที่ที่เหมาะสม จากประสบการณ์การทำโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงทั้ง 2 สาขา เราได้เรียนรู้ว่า ต้องมีพื้นที่รองรับลูกค้าได้ราว 1,000 ที่นั่ง ที่จอดรถประมาณ 350 คัน ฉะนั้นจึงต้องมีที่ดินประมาณ 7 ไร่ แต่การจะหาที่ดินขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย จนกระทั่งมาเจอที่ดินตรงนี้ซึ่งทำเลดีมาก ใกล้กับศูนย์ราชการ สำนักงานต่างๆ และมีหมู่บ้านจัดสรรในละแวกนี้อีกจำนวนมาก ผมจึงมั่นใจว่าเรามีกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อชัดเจน นอกจากนี้การเปิดสาขาแจ้งวัฒนะจะไม่แข่งกับสาขา พระราม 3และรามอินทรา” สุพจน์ เผยที่มาของการเลือกทำเลทองย่านแจ้งวัฒนะปักธงแจ้งเกิดสาขา 3

โรงเบียร์เยอระมันตะวันแดง สาขาแจ้งวัฒนะ ใช้งบประมาณในการลงทุน 200 ล้านบาท ตัวอาคารมีพื้นที่ 5,000 ตร.ม. ใช้เวลาก่อสร้างราว 7 เดือน ด้านหน้าสามารถจอดรถได้ถึง 250 คัน และมีชั้นใต้ดินสำหรับจอดรถอีก 100 คัน ส่วนบรรยากาศและการตกแต่งภายในนั้น ยกระดับความหรูหราให้เหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Boutique Industrial Design” โดดเด่นด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่สะท้อนถึงบรรยากาศแห่งการสังสรรค์ โดยสามารถรองรับคนได้ถึง 1,200 ที่นั่ง พื้นยกเป็นเสต็ปหลดหลั่น 3 ชั้น และไม่มีเสาคั่นตรงกลาง เพื่อรับประกันว่าทุกที่นั่งจะสามารถมองเห็นการแสดงบนเวทีได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญบริเวณชั้นบน ยังจัดที่นั่งแบบหน้ามุกเพื่อความสุนทรีย์ในการชมการแสดงอย่างใกล้ชิดเสมือนอยู่ในโอเปร่าเฮ้าส์ของต่างประเทศ นอกจากนี้ยังจัดสรรพื้นที่ให้มีห้อง VIP สำหรับลูกค้าที่ต้องการสังสรรค์เป็นกลุ่ม โดยมีห้องที่รองรับลูกค้าได้ตั้งแต่ 20-200 คน และมุมโซฟานั่งสบายๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่อยากปลีกตัวเพื่อพูดคุยหรือเจรจาธุรกิจอีกด้วย

นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นเหนือระดับทั้งภายนอกและภายในแล้ว จากประสบการณ์ของการสร้างสรรค์ความเป็นสุดยอดในทุกด้านของการให้บริการไมโครบริวเวอรี่ ผู้บริหารมืออาชีพ ยังเน้นถึงความสมบูรณ์แบบและความอลังการของฉาก เวที แสง สี เสียง และโชว์อันตระการตาที่จะสะกดอารมณ์ของผู้ชมให้ตื่นตาตื่นใจจนไม่อาจละสายตาได้ ซึ่งที่นี่เขาทุ่มงบประมาณกว่า 25 ล้านบาท เนรมิตความบันเทิง เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเวทีขนาดความสูง 7 เมตร กว้าง 16 เมตรที่ออกแบบมาในลักษณะโรงละครตามมาตรฐานสากล ใช้เทคโนโลยีและระบบการเปลี่ยนฉากด้วยจอ LED ขนาดใหญ่ ระบบไฮโดรลิก หรือ สลิงเพื่อการเคลื่อนไหวลอยตัวของนักแสดง รวมถึงน้ำพุประกอบดนตรีที่จะเต้นระบำด้วยความสูง 6เมตร ซึ่งทุกขั้นตอนได้ทีมงานมืออาชีพมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของการทำโรงเบียร์ในเมืองไทย อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

ส่วนรูปแบบการแสดงอันตระการตานั้นยังคงความโดดเด่นทั้งเนื้อหาและความอลังการ ที่ผสานศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีแบบไทยๆ โดยทีมงานได้สร้างสรรค์ความหลากหลายของการแสดงเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยใช้รูปแบบการแสดงแบบบรอดเวย์ประกอบกับเทคนิคอันแพรวพราวที่จะตรึงผู้ชมให้สนุกสนานไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น การแสดงชุดหนุมาน มัจฉา ซึ่งผสมผสานความเป็นดนตรีไทยและดนตรีสากล โดยใช้ฉาก LED และน้ำพุ เป็น Highlight , การแสดงชุด Diamond ที่ใช้สลิงดึงนักแสดงขึ้นไปเล่น แอคโครแบท (Acrobat) กลางอากาศ, การแสดงดนตรีแนวลูกทุ่ง ชุด ขอให้รวย โชว์ลีลาและความอลังการของชุดและท่าเต้น ที่ตื่นตาตื่นใจ, การแสดงชุดอียิปต์ เป็นการโชว์และเนรมิต Prop ขนาดใหญ่ ที่เคลื่อนย้ายเข้ามาในเวทีพร้อมการการใช้ ฉากสกรีม (scream) ในการเล่น , การแสดงชุด BOND เป็นการแสดงโชว์แบบ บอร์ดเวย์ ทั้งร้องทั้งเต้น และการแสดงชุด ไมเคิล แจ็คสัน ที่เน้นลีลาการเต้นแบบต้นฉบับ ซึ่งในแต่ละเดือนการแสดงจะหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันถึง 25 ชุด และเพิ่มการแสดงใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

สำหรับเป้าหมายในอนาคตของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาแจ้งวัฒนะ แน่นอนคือ ตัวเลขทางธุรกิจ แต่ขณะเดียวกัน สุพจน์ ยังต้องการทำให้ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คของคนในย่านนี้ และเป็นสถานที่ต้อนรับแขกคนสำคัญ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพราะสถานที่แห่งนี้ สามารถสร้างความสุข สนุกสนานได้ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบของ ขนาดสถานที่ การแสดงอันวิจิตรงดงามด้วย แสง สี เสียง รสชาติอาหารที่ถูกปากคนไทย ดนตรีที่แสนไพเราะ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ รสชาติของเบียร์สดที่ปรุงโดยบริวมาสเตอร์ชาวเยอรมันจริงๆ ได้แก่ ลาเกอร์ ดุงเค่น และ ไวเซ่น เช่นเดียวกับโรงเบียร์ทั้งสองสาขา

เช่นนั้นจึงมั่นใจในรสชาติความอร่อยจัดจ้านของทุกเมนู โดยเฉพาะอาหารยอดนิยมตลอดกาล อาทิ ขาหมูตะวันแดง ปลากะพงเผาเกลือ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ส้มตำไหลบัว เย็นตาโฟทรงเครื่อง ฯลฯ และพิเศษสุดสำหรับสาขาแจ้งวัฒนะ คือ ซูชิบาร์ อาหารญี่ปุ่นแบบออริจินัล หรือรสชาติต้นตำหรับแบบชาวญี่ปุ่นแท้ๆ ที่หารับประทานได้ไม่ง่ายนักจากร้านอาหารในกรุงเทพฯ โดยมีเชฟอาหารญี่ปุ่นแถวหน้าของเมืองไทย และเชฟที่ปรึกษาชาวญี่ปุ่น รับประกันรสชาติความอร่อยและคุณภาพความสดใหม่ของวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีจากจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีเมนูปลาหลากหลายชนิดให้เลือกรับประทาน ไม่ว่าจะเป็น ปลาโอโทโร่ ปลาชูโทโร่ ปลาฮามาจิ ปลาชิมาอาจิ ปลามาได หรือ หอยเม่น ที่นำมาเสิร์ฟเป็นซาซิมิ หรือซูชิ นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษอื่นๆ ตามฤดูกาล ที่เหล่าซูชิเลิฟเวอร์ ไม่ควรพลาด ซึ่งแต่ละจานตกแต่งตามวัฒนธรรมของแดนปลาดิบจริงๆ
ขอเชิญลิ้มรสชาติความอร่อยของอาหารและเครื่องดื่ม ที่เสิร์ฟพร้อมความบันเทิงเหนือระดับแบบครบวงจรได้ที่ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขา 3 แจ้งวัฒนะ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้

Comments