top of page
ค้นหา

เปิดทำเนียบสุดยอดนักบริหารแห่งปี 2558 : สุพันธุ์ มงคลสุธี

  • รูปภาพนักเขียน: advancedbizmagazine
    advancedbizmagazine
  • 25 ส.ค. 2558
  • ยาว 1 นาที

THE TOP 100 EXECUTIVES OF THE YEAR 2015 : สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศไทย (ส.อ.ท.) มีความตั้งใจที่จะเข้ามาพัฒนางาน อุตสาหกรรมของประเทศ โดยการประสานให้บริษัทรายใหญ่ของประเทศ ยื่นมือเข้ามาช่วยธุรกิจในระดับเอส

เอ็มอีอย่างจริงจัง เพราะในสภาพของเศรษฐกิจที่ถดถอยในขณะนี้ จะหวังพึ่งพารัฐบาลไม่ได้ ดังนั้นภาคธุรกิจรายใหญ่ที่เข้มแข็งจะต้องช่วยรายเล็กพยุงตัวให้อยู่ได้ โดยสภาอุตฯ ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 7,000 ราย แต่ 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นรายเล็ก หากมีการช่วยเหลือกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ การฝึกอบรม ตัวบทกฎหมาย เทคโนโลยีและการขนส่ง ฯลฯ ก็คงจะทำให้ปัญหาหนักทุเลาเบาบางลง

การเข้าสู่ตลาด AEC ซึ่งจะต้องส่งเสริมให้ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถลดต้นทุนและขยายตลาดให้ได้ จึงจะต้องมีการวางแผนร่วมกับกระทรวง-อุตสาหกรรม, กระทรวงพาณิชย์และกระทรวง-เทคโนโลยีสารสนเทศ ฯลฯ เพื่อร่วมกันส่งเสริมภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องอีคอมเมิร์ช ซึ่งจะต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกัน “ผมได้กำหนด ยุทธศาสตร์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และมีการผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติผ่านทางคณะกรรมการบริหารสมาชิก และพนักงานในทุกสายงาน เพื่อช่วยกันทำกิจกรรมวางแผนยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่องประกอบด้วย การสร้างความเป็นเอกภาพขององค์กรและสมาชิกทั้งภายใน และภายนอก จะเห็นได้หลายเดือนที่บริหาร ส.อ.ท. มา ทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนถึงวันนี้ไม่มีประเด็นความขัดแย้ง เกิดความร่วมมือกันอย่างชัดเจน ผมเชื่อมั่นว่าในทีมสายงานบริหารทั้งสถาบัน กลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งสภาอุตสาหกรรมจังหวัดต่างๆ และตัวของผมเอง ทุกคนแสดงให้ภาครัฐเห็นว่า เราสามารถสานต่องานทุกจุดของภาครัฐที่เกี่ยวกับภาคเอกชนได้ มีความเป็นเอกภาพ ความชัดเจนในการทำงาน มีการบูรณาการในงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดเป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติ

สิ่งแรกที่จะต้องเร่งดำเนินการคือการสร้างความเป็นเอกภาพของสภาอุตสาหกรรมฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สมาชิกรวมทั้งการปรับปรุงระบบการบริหารเพื่อสนับสนุนสมาชิกให้ได้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเน้นการช่วยเหลือสมาชิกโดยเฉพาะสมาชิกในกลุ่ม SMEs เพราะที่ผ่านมาได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความเชื่อมั่นลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในจุดนี้เราพยายามที่จะปรับองค์กรเพื่อเข้าไปช่วยส่งเสริมสมาชิกให้กลับมาเข้มแข็งดังเดิม ที่ผ่านมาเราได้ให้ความช่วยเหลือกลุ่ม SMEs มาโดยตลอด เช่น การสนับสนุนในเรื่องการหาแหล่งเงินทุนสำรองให้กับ SMEs เพิ่มมากขึ้นในโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไฟแนนซ์ที่คุยกับทางบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) หรือการพูดคุยกับสมาคมธนาคารไทยเพื่อจะช่วยผลักดันให้เกิดความรวดเร็ว คล่องตัวและง่ายยิ่งขึ้น เป็นต้น

สำหรับในปีนี้เราเน้น 2 เรื่องหลักซึ่งประกอบด้วย 1. การตลาดเพิ่มและ 2. การลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ โดยในส่วนของการหาตลาดเพิ่ม ขณะนี้เรามีสายงานการค้าชายแดนและจะให้การค้าชายแดนผลักดันให้ SMEs มีโอกาสขายสินค้าได้มากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่เราพยายามผลักดันคือ E-Marketplace (ตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์) เรากำลังจะนำเสนอรูปแบบใหม่ๆ ที่จะทำให้สมาชิกของเราสามารถที่จะค้าขายบน E-Commerce ได้ ซึ่งเป็นธุรกิจออนไลน์ที่จะเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกเราอาจจะขอความร่วมมือจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศกระทรวงอุตสาหกรรมให้ช่วยส่งเสริมและจัดหางบประมาณในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว

อยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศในกลุ่ม AEC ทั้งหมด ซึ่งถือว่ามีความพร้อมที่ดีจะรองรับการลงทุนเรามีฐานประชากรอยู่ในระดับที่ดีพอสมควร เรามีวัตถุดิบที่มีมากอย่างเพียงพอ ประกอบกับขณะนี้ประเทศที่อยู่ใกล้ๆ เรายังขาดในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งเราสามารถเชื่อมต่อประเทศเหล่านี้ได้และทำเราให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

สำหรับการเข้ามาขอ AEC ตนมองว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์ ส่วนเรื่องของความพร้อมก็จะคล้ายกับที่ทุกๆ คนมองในแต่ละด้าน โดยความพร้อมของเราคือต้องพร้อมในการเรียนรู้ไม่ว่าจะเรียนรู้เทคโนโลยี เรียนรู้ภาษา การปรับปรุงนวัตกรรมใหม่ๆ ของอุตสาหกรรม ตนเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ อุตสาหกรรมไทยเราค่อนข้างปรับตัวได้เร็ว เพราะทุกวันนี้เราจะเห็นคำว่า “Made in Thailand” ได้รับการยอมรับในต่างประเทศได้มากพอสมควร อย่างไรก็ตาม ประเทศของเราจะต้องพัฒนาในด้านการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมแทนการใช้แรงงานคนและจะต้องปรับให้ได้ เพราะถ้าจะสู้กันในเรื่องแรงงานเราคงสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ แต่ถ้าในรูปแบบของความสามารถ, นวัตกรรม, การจัดการ หรือมาร์เก็ตติ้ง ตนคิดว่าเราเหนือกว่าประเทศเพื่อนบ้านอีกมาก รวมทั้ง จากการที่บริษัทใหญ่ๆ ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน โดยสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เรามีโอกาสขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอาเซียนในอนาคต ดังนั้นการส่งเสริมต่างๆ จากภาครัฐควรจะมาส่งเสริมในเรื่องของนวัตกรรม การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้การขยายตัวของตลาดทุนก็สำคัญ ปัจจุบันตลาดทุนของเราแข็งแรงพอสมควร แต่ถ้าตลาดทุนของเราได้รับการยอมรับมากกว่านี้จะทำให้เม็ดเงินก็จะไหลเข้ามาในบริษัทต่างๆ ไหลเข้ามาในบริษัทหลักทรัพย์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการ SMEs ค่อยๆ พัฒนายกระดับเป็นธุรกิจระดับกลางและค่อยๆ ผันตัวเองเข้าไปสู่บริษัทจดทะเบียนมากขึ้น โดยจะทำให้เกิดความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นและย่อมจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม”

ปล.ท่านผู้อ่านสามารถอ่านฉบับเต็มและติดตามอ่าน รวมทั้งหมด 100 ท่านได้ในหนังสือ "Top 100 ผู้บริหารแห่งปี 2015"

 
 
 

Commentaires


Follow "THIS JUST IN"
  • Facebook Basic Black
  • Twitter Basic Black
  • Google+ Basic Black

© 2015 by "Advanced Standard Group.co.ltd". All Right Reserved

| ADVANCED STANDARD GROUP CO., LTD. Tel. +662-881-3421-3

 

  • White Facebook Icon
  • White Instagram Icon
  • White Twitter Icon
  • White Google+ Icon
  • White Pinterest Icon
  • White YouTube Icon
bottom of page