TILOG - LOGISTIX 2015 พร้อมเปิดเวทีธุรกิจ สร้างเครือข่ายผู้ให้บริการโลจิสติกส์-ผู้ประกอบการก่อนเข้า
- advancedbizmagazine
- 21 ส.ค. 2558
- ยาว 1 นาที

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด ปรับโฉมใหม่ งาน TILOG-LOGISTIX 2015 สร้างแรงหนุนโลจิสติกส์ไทยพัฒนาศักยภาพทุกด้าน เทียบเท่ามาตรฐานสากล พร้อมเชื่อมโยง สร้างเครือข่าย โลจิสติกส์รองรับตลาดโลก มุ่งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพ/ลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการและผู้ให้บริการโลจิสติกส์ เพื่อสร้างแต้มต่อการแข่งขัน พร้อมสัมมนาใหญ่ระดับภูมิภาค “ASEAN+6 Trade Logistics Connectivity Symposium 2015” ระหว่างวันที่ 2-4 กันยายนนี้ ที่ไบเทค
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงแนวโน้มการแข่งขันและโอกาสทางการค้าภายหลังการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือAEC ในปี 2558 นี้ โดยระบุว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคที่มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจโดยเฉพาะการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงควรเร่งพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความพร้อมในทุกๆด้าน โดยเฉพาะในส่วนของการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก โลจิสติกส์เป็นต้นทุนแฝงที่อยู่ในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจไม่เพียงแค่การขนส่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดเก็บ การเคลื่อนย้าย การกระจายสินค้า การสั่งซื้อวัตถุดิบ และระบบสารสนเทศ ตั้งแต่ ซัพพลายเออร์มายังผู้ผลิต ผู้ขาย ไปจนถึงมือผู้บริโภค หากมีการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ที่ดี ก็จะสามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันและมีความพร้อมที่จะช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจได้มากกว่าคู่แข่ง
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เล็งเห็นถึงความสำคัญของโลจิสติกส์ต่อภาคธุรกิจ โดยในปีนี้ได้ขยายขอบเขตการจัดงานให้กว้างขวางและมีความเป็นสากลมากขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ และผู้ส่งออกไทยในตลาดโลก โดยร่วมมือกับ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ ผู้จัดงานแสดงสินค้าหลากหลายธุรกิจ และมีเครือข่ายระดับสากล ในการจัดงานแสดงสินค้า TILOG - LOGISTIX 2015 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 กันยายนนี้ ที่ไบเทค บางนา
นายสิทธิศักดิ์ อนันตประยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด กล่าวถึงการจัดงาน TILOG-LOGISTIX 2015 ว่าเป็นการจัดงานร่วมกันครั้งแรก เพื่อผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระบบ โลจิสติกส์การค้าครบวงจรระดับภูมิภาค พร้อมรองรับการขยายตัวของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า รวมทั้งผู้ให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ จากกว่า 415 แบรนด์ จาก 25 ประเทศ มาร่วมแสดงสินค้าจากหลายภาคส่วนธุรกิจทั่วโลก อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลตนเอง อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต่างเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องการการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ที่รวดเร็วและแม่นยำ ดังนั้นคาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะดึงฐานลูกค้ามาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาร่วมชมงานประมาณ 9,000 คน
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ ประกอบด้วย นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษาคณะกรรมการ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย นายสมศักดิ์ วิเศษเรืองโรจน์ ที่ปรึกษานายกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทย และนายณัฐสพรรษ กรึงไกร นายกสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย ร่วมแสดงความคิดเห็นบนเวทีเสวนา “ระบบโลจิสติกส์ไทย...โค้งสุดท้ายก่อนเปิด AEC” โดยย้ำว่าไทยควรแสดงบทบาทการเป็นผู้นำ เดินหน้าธุรกิจบริการโดยใช้ FTA เป็นเครื่องมือสำคัญ ขยายขอบเขตความร่วมมือในอาเซียน ก้าวไปสู่การเป็น Customs Union ผลักดันให้ทุกประเทศอาเซียนให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจในประเทศก่อน ควบคู่ไปกับการสร้างมาตรฐานร่วมกันระดับอาเซียน โดยไทยจะต้องรักษาบทบาทความเป็นผู้นำและจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับประเทศในอาเซียน ให้เติบโตไปพร้อมกันแบบ Win-Win
จากเป้าหมายที่ต้องการยกระดับไทยสู่การเป็นฮับขนส่งและกระจายสินค้าสู่กลุ่ม ASEAN Plus 6 นั้น หากสามารถทำได้จริง จะทำให้การค้าระหว่างประเทศมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้ภาคบริการโลจิสติกส์ไทยเข้มแข็งขึ้น และนำไปสู่การเป็น Trading Nation ในอนาคต แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นได้ ไทยเองก็ต้องกลับมาพัฒนาความพร้อมของบุคลากร การเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน กฎหมายการขนส่งระหว่างประเทศ มาตรฐานการบริการโลจิสติกส์ในประเทศ มาตรฐานอัตราค่าบริการ ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงด้านความปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังได้มีการแสดงความคิดเห็นต่อภาครัฐในการปรับกฎระเบียบให้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ สร้างมาตรฐานหนึ่งเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่อง National Single Window เช่นการรับรองระบบ Electronic License เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานต่างๆภายในประเทศ ในการรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลต่อไปใน ASEAN รวมทั้ง เรื่องการทำประกันความเสี่ยงของค่าเงิน เพื่อป้องกันผลกระทบจากค่าเงินที่มีความผันผวน ผู้ส่งออกไทยต้องศึกษาไว้
“งาน TILOG-LOGISTIX 2015” พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายให้กับวงการโลจิสติกส์ในกลุ่มประเทศ ASEAN+6 และยกระดับศักยภาพด้านบริการโลจิสติกส์ของประเทศไทย ด้วยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นจากเจ้าของเทคโนโลยีและสินค้าชั้นนำจากทั่วโลก รวมถึงการจัดหัวข้อสัมมนาและกิจกรรมไฮไลท์ต่างๆ อาทิ การประชุม “ASEAN+6 Trade Logistics Connectivity Symposium 2015” จากผู้นำในวงการโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค นิทรรศการแสดงศักยภาพโลจิสติกส์การค้าของไทยและรางวัลสำหรับผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ไทยที่มีการบริหารจัดการเป็นเลิศ (ELMA) พร้อม Best Practice ของผู้ชนะในปีนี้ และส่วนแสดง “Forklift Live Demo” สาธิตสมรรถนะของรถยกไฟฟ้าจากแบรนด์ชั้นนำและระบบชั้นวางที่ทันสมัย และการบริการ “Business Matching” แบบออนไลน์ ช่วยให้นักธุรกิจได้จับคู่พบปะเจรจาทางธุรกิจแบบตัวต่อตัวอีกด้วย
Comments