เปิดทำเนียบสุดยอดนักบริหารแห่งปี 2558 :ชัย โสภณพนิช
- advancedbizmagazine
- 17 ส.ค. 2558
- ยาว 1 นาที

THE TOP 100 EXECUTIVES OF THE YEAR 2015 : ในแวดวงของธุรกิจประกันภัยแล้ว “กรุงเทพประกันภัย” คือยักษ์ใหญ่ในวงการก้าวเดินแต่ละก้าวบนเส้นทางธุรกิจได้แสดงถึงความเป็นผู้นำที่เชี่ยวชาญในธุรกิจประกันภัย
แชมป์บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใต้การนำของ ชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร ได้สอนให้รู้จักถ่อมตน เพราะการเป็น “แชมป์ย่อมง่ายกว่าการรักษาแชมป์” ความสำเร็จของเขาจึงบอกให้เขาต้องมั่นคงอยู่บนฐานอันหนักแน่น
พนักงานรุ่นแล้วรุ่นเล่าอยู่กันมานานแต่มีประสิทธิภาพ “ชัย โสภณพนิช” กล่าวถึงนโยบายการบริหารบุคคลว่า “เราเน้นเรื่องการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เนื่องจากธุรกิจด้านนี้คุณภาพของพนักงานมีความสำคัญมาก ซึ่งกรุงเทพประกันภัยสามารถเติบโตขึ้นมาอยู่อันดับหนึ่งในวงการประกันภัยได้เพราะ คุณภาพพนักงานของเรา แม้ว่าพนักงานของเราจะมีคุณภาพ แต่ผู้บริหารก็มิได้ละเลยที่จะพัฒนาพนักงานให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยที่เราได้เปิดอบรมสอนเทคนิคต่างๆ ในด้านประกันภัยให้แก่พนักงานใหม่ พยายามสร้างพื้นฐานทางด้านประกันภัยให้มาก เพราะเรามีนโยบาย
ว่าพนักงานไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ของตนเท่านั้น ต้องสามารถเป็นที่ปรึกษาของลูกค้าด้วย สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงขึ้นไปก็จะส่งไปดูงานต่างประเทศทุกปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้เปิดหูเปิดตาเรียนรู้ว่าต่างประเทศเขาจะทำอะไรกันบ้าง” ไม่เพียงธุรกิจประสบความสำเร็จแล้ว กรุงเทพประกันภัยยังดำเนินกิจกรรมทางสังคม ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีและปฏิบัติมาอย่างยาวนานมีหลายทิศทาง อย่างมากมายโดย ชัย โสภณพนิช กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ในส่วนของการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมนั้นเป็นหน้าที่หลักของมูลนิธิกรุงเทพประกันภัย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 ทำหน้าที่ในการรับผิดชอบติดต่อและประสานงาน นับเป็นการดำเนินกิจกรรมในลักษณะของการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) กิจกรรมที่ บมจ.กรุงเทพประกันภัยให้การสนับสนุนไม่ได้เน้นไปในด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น แต่พยายามให้ความสำคัญต่อสิ่งที่สร้างให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ทั้งการศึกษา ศาสนา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม รวมถึงศิลปวัฒนธรรมไทย เวลาที่เรามีโอกาสที่จะให้ โดยทั่วไปโครงการของบริษัทเราจะพยายามเข้าไปช่วยโดยตรงกับคนที่เราคิดว่าลำบาก หรือควรจะมีการช่วยเหลือคนคนนั้น การที่เราให้เราก็คิดว่า ความสุขมาจากการที่เราให้คนที่เราคิดว่าเขามีความต้องการ และการที่เขาได้รับ เขาก็แสดงความสุขของเขา และส่วนใหญ่เขาจะคาดไม่ถึงว่าจะมีคนที่จะเข้าไปช่วยเขามากขนาดนั้น หรือแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เขาก็ไม่คิดว่าจะมีการเข้าไปช่วยเขา เราจะกระจายโครงการของเรา และพิจารณาว่าเงินที่เราจะเอาเข้าไปช่วยจะสร้างประโยชน์ได้ขนาดไหน
โครงการที่เรามีอยู่ค่อนข้างมาก เราก็จะดูว่าโครงการไหนที่เราเข้าไปแล้วผู้ได้รับจะได้ประโยชน์มากที่สุด อันไหนที่เราคิดโครงการน้อยหน่อย เราก็ให้น้อยหน่อย แต่เราพยายามที่จะให้ทุกโครงการที่คิดว่าจะสร้างประโยชน์”
ชัย โสภณพนิช กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าฟังว่า “ธุรกิจไม่จำเป็นต้องมุ่งหวังแต่ตัวเลขผลกำไรเพียงอย่างเดียว หากธุรกิจจะต้องเอื้อเฟื้อประโยชน์และช่วยเหลือคนในสังคมด้วย”
ปล.ท่านผู้อ่านสามารถอ่านฉบับเต็มและติดตามอ่าน รวมทั้งหมด 100 ท่านได้ ในหนังสือ "THE TOP 100 EXECUTIVES OF THE YEAR 2015"
Comments