เปิดทำเนียบสุดยอดนักบริหารแห่งปี 2558 : สันติ ภิรมย์ภักดี
- advancedbizmagazine
- 16 ส.ค. 2558
- ยาว 1 นาที

THE TOP 100 EXECUTIVES OF THE YEAR 2015 : สันติ ภิรมย์ภักดี ผู้กุมอาณาจักรแสนล้าน “บุญรอดบริวเวอรี่” เตรียมเสริมเขี้ยวเล็บให้ “ภูริต” และ “ปิติ” ภิรมย์ภักดี ทายาทที่จะมารับช่วงต่อเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจจากไทยสู่ระดับโลก หลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่โดยเครือสิงห์แบ่งธุรกิจใหม่เป็น 5 เสาหลัก 2 ส่วนธุรกิจ คือ ธุรกิจแอลกอฮอล์ และธุรกิจใหม่ ที่จะไม่ใช้ว่านอนแอลกอฮอล์อีกแล้ว ซึ่งธุรกิจใหม่จะประกอบไปด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจกระจายสินค้าและอื่นๆ ธุรกิจใหม่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสิงห์ เห็นได้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาซื้อและควบรวมกิจการถี่มากขึ้น ทั้งในประเทศและต่าง-ประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากฝีมือของสองทายาท ดั่งคำบอกกล่าวของสันติที่ว่า “การทำธุรกิจในยุคนี้เราอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องมีเพื่อนไปด้วยกัน ดังนั้น การซื้อและควบรวมกิจการถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ผมมีความเชื่อว่าทุกอย่างถ้าเริ่มต้นจากศูนย์มันช้าเกินไป การเจริญเติบโตได้ส่วนหนึ่งจะต้องมีพันธมิตรที่ดี ถ้าเริ่มจากศูนย์เลยคงลำบาก” สำหรับการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ได้ “เบน แอนด์ คัมปะนี” ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจที่ปรึกษาและการจัดการธุรกิจระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เข้ามาเป็นที่ปรึกษาพร้อมทั้งหาพันธมิตรระดับโลกมาร่วมทุนให้กับสิงห์ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนให้กับสิงห์ในการสร้างเครือข่ายรุกต่างประเทศ กรุยทางยกระดับสู่บริษัทระดับโลก โดยหน้าที่ของเบนฯ จะมาอำนวยความสะดวก (Facilitate) ให้สิงห์ได้ในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น เพราะ “ธุรกิจของเราย่อมไม่มีใครที่จะเข้าใจได้มากกว่าเรา การเจริญเติบโตก้าวใหม่ จึงเป็นการมองหาพาร์ทเนอร์ที่ดี มีความเก่ง แกร่ง มีจุดแข็งคนละด้าน เพื่อมาผสานกับสิ่งที่เป็นจุดแข็งของ สิงห์ มีความเชื่ออย่างนั้น เราอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องมีเพื่อน ต้องมีความเก่งกันคนละด้าน ดังนั้นเรามุ่งมั่น มุ่งหมายให้ทุกคนอยู่อย่างผาสุก ด้วยความเจริญ เดินไปสู่อนาคตที่ดี การมีพาร์ทเนอร์ที่ดี อยู่เป็นครอบครัวดีที่สุด สิ่งสำคัญคือทุกคนมีต้องจริงใจ”
ปัจจุบันบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ถือเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ที่มีบริษัทในเครือมากกว่า 54 บริษัท มีแบรนด์ “สิงห์” รุกตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับโลก ที่ขณะนี้กำลังสานงานให้ “ปิติ ภิรมย์-ภักดี” ดูแลอย่างเต็มตัวในอนาคต สำหรับธุรกิจใหม่ มอบหมายให้ลูกชายคนโต “ภูริต ภิรมย์ภักดี” เป็นกำลังสำคัญซึ่งที่ผ่านมาดีลร่วมทุนกับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ
นับว่าเป็นการวางรากฐานก่อนต้องผ่อนถ่ายธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นในสไตล์ของสิงห์ ภายใต้การนำของ สันติ ภิรมย์ภักดี ที่เสริม เขี้ยวเล็บนำธุรกิจก้าวไปสู่เวทีระดับโลก พร้อมคำพูดที่ว่า “ผมทำอะไรต้องระดับโลก” ปล.ท่านผู้อ่านสามารถอ่านฉบับเต็มและติดตามอ่าน รวมทั้งหมด 100 ท่านได้ ในหนังสือ "THE TOP 100 EXECUTIVES OF THE YEAR 2015"
Kommentare