สิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ U Drink I Drive ธุรกิจที่ดี ต้องอดทน และ ซื่อสัตย์
- advancedbizmagazine
- 24 ก.ค. 2558
- ยาว 2 นาที
วันนี้มีข่าวดีมาบอก สำหรับนักดื่ม ท่านไม่ต้องกังวลกับกฎหมายใหม่ ที่ว่า เมาแล้วขับ ปรับหนึ่งหมื่น จำคุกหนึ่งเดือน ไม่รอลงอาญา เพราะปัจจุบันนี้ มีธุรกิจใหม่ ๆ น่าจับตามอง นั่นคือ U Drink I Drive ลองมาฟังแนวคิดสร้างสรรค์ของนักธุรกิจสาวท่านนี้

ด้วยวัย ๒๕ ปี ไม่ใช่อุปสรรคที่จะเริ่มธุรกิจใหม่ ๆ คุณสิ หรือ สิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ เริ่มเล่าเรื่องของเธอ “ จบการศึกษาปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หลักสูตรอินเตอร์ และศึกษาต่อปริญญาโทที่ คณะบริหารเศรษฐกิจธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่นกัน ด้านการทำงาน มีโอกาสไปทำงานที่ บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ซึ่งเป็นเครือของธนาคาร กรุงไทย อยู่ประมาณ 6 เดือน แล้วจึงเริ่มมาทำธุรกิจของตัวเอง
ลักษณะของธุรกิจที่ทำ เป็นแบบบริการจัดส่งคนขับรถมืออาชีพ ไปขับรถให้ลูกค้าที่ออกไปดื่มเวลากลางคืน และคนเหล่านี้เมื่อดื่มไปแล้วไม่รู้ว่าจะขับกลับบ้านอย่างไร และไม่อยากทิ้งรถไว้ที่สถานบันเทิง ดังนั้นทางเราจึงมีบริการที่จะส่งคนไปขับรถ ส่งคุณและรถของคุณถึงบ้านอย่างปลอดภัย

สำหรับกลยุทธ์หลัก ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเรานั้น เนื่องจากเราเป็นธุรกิจ SME เรื่อง งบประมาณ เราไม่ได้มีเยอะมาก รวมถึงขนาดของตัวธุรกิจด้วย ฉะนั้นเราจึงใช้กลยุทธ์ไปที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรง ตอนแรกเราต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นใคร และอยู่ที่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และ พอรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเรา อายุ 25ปี-50 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มต้นทำงานหรือ First jobber และเริ่มมีครอบครัวแล้ว เมื่อพวกเขาไปดื่ม ไปสังสรรค์ที่ไหน เราก็ไปทำงานประชาสัมพันธ์ที่นั่น ส่วนมากก็เป็นย่านเอกมัย ทองหล่อ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของเรา หรือจะเป็นแถว พระราม 9 หรือเลียบด่วนเอกมัย โดยใช้กลยุทธ์ในการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจของเรา เป็นร้านอาหาร Pub & Restaurant Lounge ต่าง ๆ และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือ การออก Event กับ Organizer รวมไปถึงการใช้ social media ซึ่งสำคัญมาก ๆ ในยุคสมัยนี้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าของเรามีอายุตั้งแต่ 25ปี ถึง 30 ปีนั้น จะรู้จักเราจาก Instagram ค่อนข้างที่จะเยอะ
...ด้วยเครื่องแบบการแต่งตัวของพนักงานเรานั้น ผ่านการคิดมาอย่างที่เรียกได้ว่าเยอะมากๆ ทุกอย่างนั้นจะมีความหมาย เช่น สูทที่พนักงานสวมใส่สีฟ้าจะทำให้ความหมายถึงความสนุก จะดูโดดเด่นเป็นสง่ามาก เราก็ยังมีการให้พนักงานผูกไทค์และสวมหมวกด้วย ซึ่งคนขับรถจะดูน่าเชื่อถือ และเป็นมืออาชีพ แตกต่างจากการใส่เสื้อยืดไปอย่างแน่นอน และคนที่มาใช้บริการนั้นก็ชอบถ่ายรูปและแชร์ลง social media ซึ่งตรงนี้ก็เป็นหนึ่งใน Marketing strategy ของเราอย่างหนึ่ง
ผลประกอบการที่ผ่านมาถือว่ากว่าที่เราคาดเอาไว้มาก ในช่วง 3-6 เดือนแรกที่เปิดให้บริการนั้นคงไม่มีคนใช้บริการ เพราะว่าเป็นธุรกิจที่ใหม่มากสำหรับลูกค้า แต่ที่ประหลาดใจ คือเปิดให้บริการวันแรกก็มีคนเรียกใช้บริการเลย และทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นลูกค้าเราอยู่และก็ยังใช้ทุกอาทิตย์ ซึ่งทุกวันนี้เราจะมี Growth (อัตราการเจริญเติบโต) อยู่ที่ 30%ต่อเดือน และตอนนี้เราก็มีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 7แสนกว่าบาท ซึ่งลูกค้าโดยประมาณ 1,000 คนต่อเดือน

จริง ๆ แล้วถ้าพูดถึงเหตุการณ์ที่ประทับใจนั้น เราต้องพูดว่ามีเยอะมาก แต่ที่ประทับใจที่สุด คือมีลูกค้าท่านหนึ่งที่ต้องออกไปสังสรรค์และดื่มกับลูกค้า ซึ่งตกอาทิตย์ละ 2-3 วัน และฝ่ายภรรยาซึ่งรออยู่ที่บ้านก็เป็นห่วงค่อนข้างมากว่า สามีจะกลับถึงบ้านปลอดภัยไหม พอเขารู้จักกับบริการ U Drink I Drive ของเรา และใช้บริการของเราโดยตลอด ทำให้สามีเขาเดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัยทุกครั้ง และภรรยาเขาได้โทรมาบอกกับเราว่า ขอบคุณที่มีธุรกิจดี ๆให้บริการแบบนี้ ทำให้เขาคลายกังวลเรื่องเป็นห่วงสามี และนอนหลับได้อย่างสบายใจ มิฉะนั้นภรรยาต้องรอสามีทุกครั้งที่สามีออกไปดื่ม ซึ่งทำให้เราประทับใจเป็นอย่างมาก
...และอีกกรณีหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เราถามถึงความประทับจากลูกค้าคือ มีลูกค้าท่านหนึ่งเคยมีประสบการณ์จากอุบัติเหตุขับรถชนคนบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากตัวเขาเมา ทำให้เขารู้สึกกลัวเวลาที่ออกไปดื่ม เขาพยายามใช้คนขับรถของเขา แต่ก็รู้สึกเกรงใจคนขับรถเนื่องจากเลยเวลาทำงาน ก็อยากให้คนขับรถมีเวลาอยู่กับทางครอบครัว ซึ่งในช่วงนั้นก็ถือว่าเป็นปัญหากับชีวิตเขามาก พอเขามารู้จักบริการ U Drink I Drive ของเรา เขาก็เรียกใช้บริการทุกครั้งที่ออกไปดื่ม และเขามาบอกกับเราว่าขอบคุณมาก เขาไม่อยากเมาและขับรถอีกแล้ว ซึ่งบางครั้งเขาก็ไม่มีทางเลือก แต่ภายหลังต้องไปรบกวนเพื่อนหรือคนขับรถที่บ้านทุกครั้งก็คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งภายหลังที่ใช้บริการจากเรา เขาสบายใจและประทับใจมาก และสิ่งเหล่านี้เลยเป็นกำลังใจที่ดีให้เราดำเนินธุรกิจในทุกวันนี้
...สำหรับหลักการทำงาน สิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ ได้ให้ข้อคิดดีดีว่า “ คิดว่าการลงมือทำนั้นสำคัญที่สุด ในวันหนึ่งเราวางแผนมากมาย เนื่องจากปัญหาเราเยอะไปหมดเลย เราก็คิดว่าจะแก้จากตรงไหนดี ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน แต่เมื่อเราตัดสินใจและพูดคุยกับหุ้นส่วนคนหนึ่ง เขาก็บอกให้เราใจเย็น ๆ แก้ปัญหาไปทีละอย่าง ทำให้รู้ว่า นับวันยิ่งธุรกิจเรานั้นโตขึ้นทุกวัน ปัญหานั้นมาหาเราเรื่อย ๆ อยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แน่นอนว่า เราก็ต้องเจอปัญหาที่มากขึ้นและหลากหลายขึ้น และมาเป็นบททดสอบของเราให้เรานั้นต้องผ่านไปให้ได้

...และอีกอย่างที่สำคัญคือ กำลังใจ ซึ่งกำลังใจในการทำธุรกิจนั้นสำคัญมาก และกำลังใจที่เกิดจากการให้ตัวเราเองนั้นสำคัญมากที่สุด เพราะว่ามันไม่มีใครให้กำลังใจเราได้ดีไปกว่าเรานั้นให้กำลังใจตนเองได้ ซึ่งเราต้องคอยบอกตัวเองเสมอว่า ที่ผ่านมาเราทำดีแล้ว เรามาไกลจากเดิมแค่ไหนแล้ว อย่าไปมองว่าข้างมันอีกยาวไกลเหลือเกินจะทำให้เรารู้สึกท้อ
มีคนเคยบอกว่า การทำธุรกิจนั้นเหมือนกับการขับรถ คือไกล ๆ เราจะมองไม่เห็นหรอก เราจะมองแค่ใกล้ ๆ เพียงระยะสายตาของเรา ถ้าเรามองไปข้างหน้าว่าอีกไกลและมองไม่เห็นมัน เราก็จะพะวงไปเปล่า ๆ เราควรมองแค่ใกล้ ๆ นี้ก่อน ว่ามีปัญหาอะไรบ้างและเราก็แก้ไปทีละอย่าง และทำให้เกิดหลักการในการทำงาน คือ ค่อย ๆ ทำ และ ค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละอย่าง โดยที่ลงมือทำอย่างจริงจัง และ อย่าลืมที่ให้กำลังใจตัวเองอย่างส่ำเสมอ โดยที่คิดว่า เราตอนนี้เรานั้นทำได้ดีแล้ว และค่อยทำมันไปทีละก้าว
ส่วนหลักการทำงาน โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่า คนเรานั้นเกิดมาเพื่อพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เราเกิดมาโลกนี้ได้นั้นไม่ใช่แค่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ โดยที่เราต้องพัฒนาศักยภาพของเราให้สูงที่สุด พูดง่ายๆก็คือ ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน โดยที่ความหมายของที่แท้จริงคือ คนเรานั้นต้องเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ อย่างเช่นว่า ในอาทิตย์นี้เราไม่รู้ภาษาจีน ภายในหนึ่งเดือนเราก็เรียนรู้ให้มากที่สุดเพื่อให้เราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งเหล่านี้เป็นหลักการดำรงชีวิตของตัวเอง ถ้าเราเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เราตั้งรับและทำให้เราก้าวผ่านอุปสรรคทั้งหลายที่จะเข้ามา เราจะโตและพัฒนาตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ

บุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจหรือ Role Model สำหรับตัวเองนั้น คือ คุณแม่ เพราะตัวเองนั้นเป็นผู้หญิงทำงานเหมือนกัน ซึ่งคุณแม่นั้นทำงานเก่ง โดยที่เกี่ยวกับ Jewelry ซึ่งเปิดมาได้กว่า 50 ปีแล้ว ซึ่งแต่ก่อนนั้นนับได้ว่า ไม่ได้มีฐานะอะไรมากมาย ซึ่งต้องบอกว่า มีฐานะอย่างทุกวันนี้ได้เพราะความพยายาม มุมานะ อดทน และค้าขายด้วยความซื่อสัตย์ โดยที่ไม่เอาเปรียบลูกค้า ทำให้เราคิดได้ว่า นอกจากการทำธุรกิจต้องอาศัยความอดทนแล้ว ความซื่อสัตย์เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ถึงแม้นว่าเราจะมีโอกาสแม้แต่เพียงนิดเดียวที่จะฉวยโอกาสหรือเอาเปรียบผู้อื่น พูดเลยว่า อย่าไปทำ เพราะมันจะทำให้ธุรกิจเรานั้นไม่ยั่งยืน และตัวเราเองนั้นจะไม่สบายใจเป็นที่สุด
... อย่างทาง U Drink I Drive เองนั้น ในบางทีการคำนวณค่าใช้จ่ายมันไม่ค่อยเสถียร โดยถ้ามีการคำนวณผิดคิดเกินจริงออกไป วันถัดไปเราจะโทรหาลูกค้าเลย และจะโอนเงินคืนทันที โดยที่ส่วนมากลูกค้าประจำ จะบอกเลยว่า ใช้บริการบ่อยให้ค้าง Balance ไว้ คราวหน้าค่อยหักออก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงความจริงใจต่อลูกค้า และตัวลูกค้าเองก็รับรู้ได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินเพียง 50 บาทที่คิดผิดไป เราก็จะคืน เนื่องจากเรายึดหลักความซื่อสัตย์ในการทำธุรกิจเสมอมา ซึ่งธุรกิจที่ดีนั้น เราต้องไม่เอาเปรียบลูกค้า แล้วมันจะทำให้ธุรกิจเรายั่งยืนแน่นอน รวมไปถึงเราก็ไม่เอาเปรียบสังคม ถ้าเราได้มา ก็ควรให้คืนกับสังคมบ้าง อย่างทุกวันนี้ที่ทำอยู่ เพราะเรามีความเชื่อว่า U Drink I Drive ธุรกิจดีๆแบบนี้ ทำไมจะอยู่ไม่ได้ ทำไมจะไม่รอด บางคนก็ไม่สนับสนุน แต่เพราะความเชื่อทำให้เราทำมาถึงทุกวันนี้ จนพิสูจน์ว่า ธุรกิจเราอยู่รอด “
การพัฒนาพนักงานนั้น คุณสิรโสมย์ ให้ข้อคิดว่า “ ตัวเราเองนั้นต้องเป็น Role Model ที่ดีขององค์กรก่อน เราจะโชว์ให้เห็นถึงความขยันของเราก่อน เราจะเข้างานทุกวันและตรงเวลา และแสดงความรับผิดชอบต่องานเสมอ เมื่อเราทำให้พนักงานเห็น เขาจะทำตาม และมีกำลังใจ โดยช่วงแรกๆที่เริ่มธุรกิจนั้น เลิกงาน 6 โมงเช้าเลย เราจะอยู่กับ Call Center ทั้งคืน และช่วยเขาทำทุกอย่าง เพราะเราก็คิดว่า เค้าจะรู้สึกมั่นคงไหม เพราะตอนเริ่มทำ เราก็ไม่มีอะไรเลย บริษัทก็ใหม่ เราก็อายุน้อยกว่าเขาด้วย เขาจะอยู่กับเราได้นานไหม

...สิ่งที่เราทำนั้นได้ให้ตำตอบกับตัวเราและตัวเขา ตัวพนักงานเป็นคนบอกกับเราว่า พวกเขาเชื่อว่าเราไปรอด เพราะเขาเห็นในความตั้งใจจริงของเรา แต่ทั้งนี้มันก็เป็นเพราะ ในการเลือกพนักงานที่เข้ามาทำร่วมกับเรานั้น เราก็เลือกคนที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ไม่ใช่แค่คนที่รับเงินและทำไปวัน ๆ ต้องเป็นคนที่ภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรเรา และต้องเป็นคนที่รักในงานบริการด้วย โดยเราจะบอกพนักงานของเราทุกคนเลยว่า หน้าที่ของเขาไม่ใช่แค่ส่งคนไปบ้าน เราต้องทำอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจกับบริการของเราด้วย โดยที่แต่ก่อน คืนหนึ่ง ๆ ของลูกค้าอาจจะไปจบที่ด่านตรวจแอลกอฮอล์ แต่เราจะให้ค่ำคืนนั้นของลูกค้าไปจบที่บ้านโดยสวัสดิภาพ เรามีทั้งผ้าเย็น น้ำดื่ม รวมไปถึงถุงอาเจียนบริการให้ด้วย
เวลาเกิดปัญหานั้น ปัญหาที่เราพบในปัจจุบันนั้น มีอยู่สองอย่าง คือ ปัญหาที่เราคาดการณ์ไว้แล้ว กับที่เรายังไม่คาดการณ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจเมื่อเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ คือการมีสติ ซึ่งสตินั้นจะช่วยเราแก้ปัญหาต่างๆที่เข้ามาได้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้น สตินั้นสำคัญมาก รวมไปถึงต้องวิเคราะห์ให้ออกว่าปัญหานั้นเกิดจากอะไร แล้วก็แก้ปัญหาให้ตรงจุดด้วยก็เป็นเรื่องที่สำคัญ”
วิธีทำให้เราเหนือกว่าคู่แข่ง สิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ ปิดท้ายบทสัมภาษณ์ว่า “โดยส่วนตัวแล้ว เชื่อในความแตกต่าง ทุกคนจะมีที่เรียกว่า Differentiation ในตัวเอง แล้วใส่ Innovation เพิ่มเติมเข้าไป โดยธุรกิจของเรานั้นถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีแค่หนึ่งเดียว แต่ถ้ามองมุมกว้างนั้น เราคือธุรกิจที่ส่งคนถึงบ้าน ซึ่งมีทางเลือกเยอะแยะ ซึ่งเราก็อยู่ในหมวดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Uber, Grab Taxi, Taxi ปกติ หรือระบบขนส่งสาธารณะก็ตาม แต่ด้วยความแตกต่างของเรานั้นทำให้เราไม่ต้องเข้าไปแข่งกับพวกเขาโดยตรง เราต้องมองหาตลาดที่เป็นโอกาสของเรา โดยไม่ใช้เรื่องราคาเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ซึ่งเมื่อเราทำได้ เราจะเป็นเหมือน ธุรกิจยุคใหม่ ซึ่งในอนาคตนั้น คาดการณ์ว่า เราจะเห็นแต่ละธุรกิจที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นจุดต่างกันมากขึ้น และเมื่อเราสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ เราก็จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าอีกด้วยเช่นกัน”


Comments