กรมส่งเสริมการค้าฯเผยผลประชุมร่วมเอกชนเร่งผลัดดันการส่งออกภายใต้ GSP จี้ SME ใช้สิทธิประโยชน์ 6 กลุ่

นันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมประเมินสถานการณ์การส่งออกร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและตัวแทน 6 สมาคมในกลุ่มสินค้าหลักที่ต้องเร่งรัดการส่งออกตามนโยบายพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กรณีสหรัฐฯต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี)ว่า สินค้าสำคัญ 6 กลุ่มที่มีการใช้สิทธิจีเอสพีระหว่าง 1 สิงหาคม 2556 - 30 เมษายน 2558 (รวม 21 เดือน) คิดเป็นสัดส่วนเพียง 41.58% ของการใช้สิทธิรวมของไทย ซึ่งเป็นการสูญเสียโอกาสและศักยภาพทางการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย จึงขอให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี เร่งใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มการส่งออก ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง

“การต่ออายุจีเอสพีให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งไทยออกไปอีก 4 ปี 5 เดือน( 31 ก.ค.2556 - 31 ธ.ค.2560) ทำให้ไทยได้เปรียบคู่แข่ง โดยเฉพาะจีน ที่ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ โดยผู้ส่งออกไทยสามารถขอใช้สิทธิส่งออกได้ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.2558”นางนันทวัลย์ กล่าวและว่า กรมฯจะเน้นกลุ่มสินค้าสำคัญ 6 กลุ่ม ได้แก่ ยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ สินค้าอาหารทะเลสด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป สินค้าผัก/ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ

สินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ในช่วง 21 เดือน ไทยใช้สิทธิจีเอสพีเพียง 396 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ มีสัดส่วน 6.68% ของการนำเข้าสินค้าที่มีการใช้สิทธิของไทยทั้งหมด สินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง ใช้สิทธิ 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 7.59% สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ 1,140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 19.23% สินค้าอาหารทะเลสดฯ 23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 0.39% สินค้าผัก/ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 233 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 3.93% และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ 224 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 3.77%

ทั้งนี้ทูตพาณิชย์สหรัฐฯรายงานในแนวทางเดียวกันว่า ผู้บริโภคสหรัฐฯมีความเชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจของประเทศสูงขึ้น ส่งผลให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมถึงสัญญาณอื่นๆ ที่บ่งบอกสภาพเศรษฐกิจ ได้แก่ ยอดการซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในหลายพื้นที่ ราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังการซื้อสูงขึ้น และยังมีเงินออมสำหรับอนาคต จึงประเมินว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯฟื้นตัวต่อเนื่องนับจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2557

สำหรับการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯในช่วง 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.)ของปีนี้ มีมูลค่ากว่า 9,862 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(319,516 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 4.98 % ขณะที่เป้าหมายการส่งออกไทยไปสหรัฐฯปี 2558 กำหนดไว้ว่าจะขยายตัว 3.1% หรือ 24,632 ล้านเหรียญสหรัฐฯ