วสท. วิเคราะห์สาเหตุภัยพิบัติถนนทรุด เสนอแนะ 5 แนวทางแก้ไข
- advancedbizmagazine
- 10 ก.ค. 2558
- ยาว 1 นาที

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ตรวจสอบเหตุภัยพิบัติถนนทรุด ชี้สาเหตุจากวิกฤติภัยแล้งน้ำลดต่ำจนแห้งผิดปกติ ทำให้ตลิ่งพังทลายส่งผลกระทบต่อถนนและระบบสาธารณูปโภคใกล้เคียง พร้อมเสนอแนะ 4 แนวทางด้านเทคนิคและนโยบาย เพื่อพิจารณาใช้แก้ปัญหาในอนาคต

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (Prof.Dr.Suchatvee Suwansawat) นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า “จากวิกฤติภัยแล้งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ ซึ่งนับว่ารุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง สถานการณ์ภัยแล้งขณะนี้แม้จะเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว 17 จังหวัด แต่ยังคงเหลือพื้นที่ประสบภัยอีก 13 จังหวัด วิกฤติภัยแล้งได้ส่งผลกระทบด้านคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมสิ่งแวดล้อม โดยขยายวงกว้างต่อประชาชน ได้แก่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากการขาดน้ำสำหรับใช้ทำนาและอุปโภคบริโภค อีกทั้งส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานในบางพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณที่มีตลิ่งสูงชันและถนนที่อยู่เลียบแม่น้ำลำคลอง เกิดการทรุดตัวและพังทลายเสียหายมากในพื้นที่ จ.สระบุรี, จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่มีคูคลองจำนวนมาก ส่วนจังหวัดชัยนาท มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาแห้งลง จนเป็นเหตุให้บ้านริมตลิ่งเสียหายและทรุดตัวลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอมโนรมย์ รวม 13 หลัง
การวิบัติทางวิศวกรรม โดยทั่วไปมักมาจากสาเหตุ 4 ประการ คือ 1.การออกแบบถูกต้องหรือไม่ 2.การก่อสร้างตามแบบและข้อกำหนดของวิธีปฏิบัติ หรือไม่ 3.มีการใช้งานผิดประเภท 4.เกิดจากภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด กรณีถนนเลียบคลองทรุดเสียหายหนักในพื้นที่ จ.สระบุรี, จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ปทุมธานี ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้ส่งทีมลงสำรวจ และพบว่าภาวะแล้งที่รุนแรงและยืดเยื้อ น้ำในแม่น้ำคูคลองลดเหลือน้อยมาก ทำให้ถนนเลียบแม่น้ำคูคลองมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตามถ้าเทียบกับความยาวถนนทั้งหมด กว่า 60,000 กิโลเมตร ส่วนที่เสียหายนั้นถือว่าน้อย แต่จำเป็นต้องพิจารณาหาทางแก้ไขและป้องกันปัญหา”

รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ (Assoc.Prof.Dr.Suttisak Soralump) อุปนายก วสท. และประธานคณะอนุกรรมการ สาขาวิศวกรรมปฐพี วสท.กล่าวว่า “ถนนส่วนใหญ่ที่เสียหายเป็นถนนริมคลองชลประทาน ซึ่งเป็นถนนสายรองที่ออกแบบไว้รองรับเพียงการขนส่งพืชผลทางการเกษตรและการเข้าไปบำรุงรักษาคลอง ก่อสร้างพร้อมการขุดคลองชลประทานโดยการนำดินที่ขุดจากการขุดคลองไปถมเป็นถนน หลังจากนั้นจึงมีการปรับปรุงส่วนผิวทางด้านบนเพื่อใช้ในการรองรับการจราจรให้มากกว่าเดิม โดยการพิบัติของถนนริมคลองนั้นได้เกิดขึ้นมานานไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้ว เพียงแต่ในปีนี้เกิดมากตามระยะเวลาของความแห้งแล้งที่ยาวนาน ทั้งนี้จากการตรวจสอบในสนามและประมวลงานศึกษาวิจัยต่างๆ วสท.สรุปถีง สาเหตุการพิบัติ ได้ดังนี้ 1) การพิบัติของถนนริมคลองชลประทาน เกิดส่วนใหญ่ในพื้นที่ดินเหนียวอ่อน พื้นที่ที่มีดินฐานรากเป็นดินเหนียวที่อ่อนมากและหนามากจะมีโอกาสของการพิบัติที่มากกว่า 2) คลองชลประทานมีโอกาสเกิดการลดลงของระดับน้ำอย่างรวดเร็ว (sudden drawdown) จากการจ่ายน้ำเข้าคลองสายย่อย ซึ่งจะทำให้มีโอกาสในการพิบัติของตลิ่งมากขึ้น 3) ฤดูแล้งที่ยาวนานส่งผลโดยตรงต่อการพิบัติของลาดตลิ่งริมคลองชลประทานเนื่องด้วยเหตุผลคือ ก. ระดับน้ำจะต่ำกว่าระดับน้ำต่ำสุดที่ใช้ในการออกแบบ ข. การที่ไม่มีน้ำมาช่วยพยุงตลิ่งไว้เป็นเวลานาน ดินฐานรากตลิ่งอาจเกิดการคืบตัว (creep) อย่างช้าๆจนพิบัติในที่สุด ค. ความแห้งแล้งที่ยาวนานอาจส่งผลให้ชั้นดินของลาดตลิ่งแห้งและหดตัว (shrink) ทำให้สูญเสียกําลังความแข็งแรง และพิบัติในที่สุด ง. การกัดเซาะของลาดตลิ่งที่ทำให้ตลิ่งชันอาจเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ไม่ส่งผล เพราะน้ำช่วยพยุงลาดตลิ่งไว้ จ. การสูบน้ำของเกษตรกรโดยการขุดลาดตลิ่งให้ชันหรือเป็นหลุมทำให้ตลิ่งมีความชันมากขึ้นและมีโอกาสการพิบัติได้ง่ายขึ้น

การแก้ไขทางด้านเทคนิควิศวกรรม สำหรับถนนที่ทรุดเสียหาย สามารถพิจารณาแก้ไขได้หลายรูปแบบ เมื่อถนนขยับตัว ใส่เสาเข็มไม้สน หรือเสาเข็มคอนกรีตยันไว้ ดังเช่น อบจ.ปทุมธานี , การทำเบิร์ม (Berm) เสริมดินส่วนสโลปตรงฐานคันดินเพื่อกันดินสไลด์ ,การขุดตักดินอ่อนออกแล้วลงเสาเข็มปูพรม,การทำกำแพงกันดิน ,การใช้วัสดุอีพีเอส โฟม เช่น สะพานพระราม 5 ใข้กับคอสะพาน ทางหลวงหลายแห่งก็ใช้ได้ผล เป็นต้น
ทั้งนี้ทาง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เสนอ 5 แนวทางการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาสำหรับแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต ดังนี้
ควรตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากกรมชลประทานและยังมีหลายหน่วยงานที่ขอใช้พื้นที่ถนนริมคลอง ได้แก่ กรมทางหลวงชนบท, หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ปัญหานี้จะยังคงมีต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ วสท.ยินดีเป็นเจ้าภาพกลาง และยินดีสนับสนุนข้อแนะนำทางวิชาการอย่างเป็นกลาง ที่เสนอเช่นนี้เพราะการแก้ปัญหาจำเป็นต้องอาศัยการตัดสินใจจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในมิติเดียว
ควรทบทวนระดับความสำคัญของถนนให้สอดคล้องกับสภาพการใช้งานจริง ทั้งนี้ถนนที่มีการจราจรมากควรยกระดับหรือฐานะของถนนให้สอดคล้อง เพื่อที่จะได้ทำการปรับปรุงทางวิศวกรรมให้เหมาะสมต่อไป การปรับปรุงที่สำคัญ คือ การปรับปรุงสภาพฐานรากเดิมของถนนให้มีความแข็งแรงมากขึ้น
การสำรวจชั้นดินฐานรากให้มีความครอบคลุมมีความสำคัญมากในการก่อสร้างถนนริมคลองในพื้นที่ดินอ่อน อย่างไรก็ตามการเจาะสำรวจอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถครอบคลุมได้ จึงอาจพิจารณาใช้การสำรวจทางธรณีฟิสิกส์ควบคู่ไป ถึงแม้ว่างบประมาณในการสำรวจรวมไปถึงการก่อสร้างจะมากขึ้น แต่คุ้มค่ากว่าการเสียงบประมาณในการซ่อมแซมภายหลังมาก
ถนนบางสายอาจจะออกแบบให้ใช้ประโยชน์ในการป้องกันน้ำท่วมควบคู่ไปกับการใช้เป็นถนนเพื่อการจราจร ถนนดังกล่าวเหล่านี้ควรจะถูกยกระดับความสำคัญให้มากและควรมีงบประมาณที่เพียงพอในการดำเนินการให้ปลอดภัยในสถานะการณ์วิกฤติ
คำแนะนำสำหรับประชาชน มีส่วนร่วมในการประหยัดน้ำ หลีกเลี่ยงการขุดที่จะทำให้ตลิ่งหรือโครงสร้างใกล้ถนนริมคลองเปลี่ยนรูปแบบไป อย่าขับรถเข้าใกล้รอยแยกร้าวหรือทรุด ผู้อยู่อาศัยชายน้ำที่มีตลิ่งสูงชันและน้ำลดมาก ควรย้ายออกห่างจากพื้นที่เสี่ยง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

Comments