แดนมังกรตั้งกองทุนพยุงหุ้น

โบรกเกอร์แดนมังกรร่วมตั้งกองทุน 6.5 แสนล้าน กู้ตลาดหุ้นหลังดิ่งฮวบ

สมาคมหลักทรัพย์จีน (เอสเอซี) องค์กรในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของจีน แถลงว่า บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดในจีน 21 แห่ง จะร่วมกันจัดตั้งกองทุนเพื่อใช้ในการเข้าซื้อหุ้นเพื่อสร้างเสถียรภาพให้ ตลาด หลักทรัพย์ของจีนเป็นวงเงินทั้งหมด 1.2 แสนล้านหยวน (ราว 6.48 แสนล้านบาท) หลังจากตลาดหลักทรัพย์ของจีนเกิดความปั่นป่วนอย่างหนัก

ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตปรับตัวลดลงถึง 5.77% ไปปิดตลาดที่ 3,686.92 จุด ในวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดังกล่าวได้ปรับตัวลดลงไปเกือบ 30% แล้ว แม้ว่าจีนได้พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจหลายต่อหลายครั้งผ่านการปรับลดอัตรา ดอกเบี้ย และปรับลดสัดส่วนเงินทุนสำรองของธนาคารพาณิชย์ (อาร์อาร์อาร์)

“บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 21 แห่ง จะร่วมกันลงทุน 15% ของสินทรัพย์สุทธิ จนถึงปลายเดือน มิ.ย. หรือไม่น้อยกว่า 1.2 แสนล้านหยวน ในกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (อีทีเอฟ) ของหุ้นชั้นดี (บลูชิป)” แถลงการณ์ของเอสเอซี ระบุ

ขณะเดียวกัน เอสเอซียังแถลงให้คำมั่นด้วยว่า จะมีมาตรการที่แข็งแกร่งในการสร้างเสถียรภาพให้ตลาดในประเทศ พร้อมกล่าวด้วยว่า บรรดาบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จะไม่ขายสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่ ตราบเท่าที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 4,500 จุด

กระนั้น วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานว่า วงเงินในกองทุนนี้อาจไม่เพียงพอ เนื่องจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นจีนในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นได้ทำให้มูลค่าตลาดหายไปมากถึง 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่าขนาดเศรษฐกิจของกรีซในปีที่แล้วถึง 10 เท่าเลยทีเดียว

ฮง ฮ่าว หัวหน้านักกลยุทธ์ของโบคอม อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ตั้งข้อสงสัยถึงแผนการดังกล่าวว่า จะเพียงพอต่อการยุติการปรับตัวลดลงของดัชนีได้หรือไม่ พร้อมระบุว่า มาตรการนี้อาจจะเป็นการสร้างปัญหาใหม่ในอนาคตอีกด้วย

นอกจากนี้ วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานอ้างแหล่งข่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสของจีน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) เจ้าหน้าที่จากรัฐบาล และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เข้าร่วมการประชุม ในวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยถึงมาตรการในการควบคุมตลาดหุ้น

แหล่งที่มา

#NewsReport