"โจเซฟ สุเชาว์วณิช" ผู้เป็นเจ้าตลาดผู้ผลิตเนื้อเป็ดรายใหญ่ของประเทศไทยและระดับโลก
- advancedbizmagazine
- 2 ก.ค. 2558
- ยาว 2 นาที

“ จะทำอะไรขอให้เชี่ยวชาญเถิด จะเกิดผล ” สุภาษิตโบราณบทนี้สอนไว้ว่า ไม่ว่าจะทำกิจการใด ก็ขอให้มีความเชี่ยวชาญในกิจการนั้น ๆ จึงจะทำให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งน่าจะใช้ได้ดีสำหรับ โจเซฟ สุเชาว์วณิช ผู้ที่มีหลักการทำงานที่ว่างานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
โจเซฟ สุเชาว์วณิช ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR GROUP ก่อตั้งบริษัทจากจุดเริ่มต้นเมื่อ 31 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน บางกอกแร้นช์ กลายเป็นเจ้าตลาดเป็ดครบวงจร นับได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกผลิตเนื้อเป็ดที่มีคุณภาพในระดับพรีเมี่ยม จนเป็นธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมรายแรกของประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า
“ จากเดิมธุรกิจของคุณพ่อคุณแม่ผม ทำธุรกิจเสื้อผ้าเกี่ยวกับเสื้อขนเป็ด เริ่มทำธุรกิจจากการหาขนเป็ด ซึ่งในตอนแรกหายากมาก ต้องรับซื้อเพื่อนำขนเป็ดมาทำเสื้อ เมื่อใช้ขนเป็ดแล้ว สำหรับเนื้อเป็ดที่เหลือ ผมจึงมองว่าน่าจะนำมาทำธุรกิจ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจเนื้อเป็ด
ย้อนไป ปี 2527 เมื่อ 31 ปีที่แล้ว ผมในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทบางกอกแร้นช์จำกัด(มหาชน) ได้ดำเนินธุรกิจ นับได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจเป็ดในประเทศไทยและดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและผลิตอาหารจากเนื้อเป็ด นอกจากนี้เรายังได้ดำเนินธุรกิจเลี้ยงเป็ดเนื้อโดยฟาร์มเลี้ยงเป็ดเนื้อของบริษัทฯ เราเอง ซึ่งนับได้ว่าบริษัท ฯ เราเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตอาหารจากเนื้อเป็ดแบบครบวงจร โดยดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและผลิตอาหารจากเนื้อเป็ดที่มีคุณภาพในระดับพรีเมี่ยมและจำแนกธุรกิจของกลุ่มบริษัทออกเป็น 5 ประเภทได้แก่
1.ธุรกิจอาหารสัตว์(Feed) ได้แก่การผลิตอาหารสัตว์เพื่อใช้ในการเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เป็ด และเป็ดเนื้อทั้งของบริษัทฯ และของเกษตรกรคู่สัญญาซึ่งทำหน้าที่รับเลี้ยงเป็ดให้แก่บริษัทฯ
2.ธุรกิจฟาร์มพ่อแม่พันธุ์(Parent Stock Farm) ได้แก่การเลี้ยงและขยายพันธุ์เป็ดเนื้อจากไข่ของพ่อแม่พันธุ์เป็ด
3.ธุรกิจโรงฟัก(Hatchery)ได้แก่การฟักไข่เป็ดเพื่อเลี้ยงเป็นเป็ดเนื้อของบริษัทฯ
4.ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงเป็ดเนื้อ(Commercial Farm and Contract Farm )
และ 5.ธุรกิจโรงงานชำแหละและแปรรูป(Slaughterhouse and Food Processing) ได้แก่การชำแหละเป็ดเนื้อและแปรรูป เพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปพร้อมปรุงและผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปปรุงสุกจากเนื้อเป็ด รวมถึงผลพลอยได้จากการชำแหละเป็ดเนื้อ

โดยผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทมีการจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งเอเชียยุโรปและตะวันออกกลางกลุ่มบริษัทมีฐานการผลิตแบบครบวงจรทั้งในประเทศไทยและประเทศเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบันขอบเขตในการดำเนินธุรกิจจำแนกออกเป็น 2 ส่วนหลักคือกิจการในประเทศไทย และกิจการในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและผลิตอาหารจากเนื้อเป็ดแบบครบวงจรเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศและเพื่อการส่งออกไปยัง 20 ประเทศใน 3 ทวีปทั่วโลก
กิจการในประเทศไทย มีกระบวนการผลิตครบวงจรเริ่มตั้งแต่การเลี้ยงเป็ดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ การฟักไข่เป็ด การจำหน่ายลูกเป็ดเนื้อ การผลิตและจำหน่ายอาหารเป็ดการเลี้ยงเป็ดเนื้อโดยฟาร์มของบริษัท ฯ เอง และฟาร์มของเกษตรกรคู่สัญญาในระบบเกษตรแบบพันธะสัญญา การชำแหละและผลิตเนื้อเป็ดแปรรูปพร้อมปรุงแบบแช่เย็นและแช่แข็งเนื้อเป็ดแปรรูปปรุงสุก และผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดของบริษัทฯ ปัจจุบันบริษัท ฯ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เป็ดแบบอุตสาหกรรมสองรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
วิสัยทัศน์ธุรกิจ นั้น กลุ่มบริษัท ฯ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเป็ดที่น่าเชื่อถือของโลก
ส่วนพันธกิจ นั้น เราเป็นกลุ่มบริษัทที่จะสร้างรากฐานธุรกิจที่มีคุณค่าและยั่งยืนด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพจากเป็ด โดยยึดถือความพึงพอใจของลูกค้าและคำนึงถึงการสร้างคุณประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงสาธารณชนทั่วไป

เมื่อพูดถึง BR GROUP นับว่าเราเป็นผู้ผลิตเป็ดอย่างเดียว เป็นผู้ประกอบการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งตลาดเอเชียและยุโรป มีกำลังการผลิตอันดับต้น ๆ ของโลก วิธีการทำงาน เราเป็น global ผลิต 20 ล้านตัวต่อปี ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดครึ่งหนึ่ง
กลยุทธ์ด้านการตลาด เราเจาะตลาดลูกค้าในประเทศ ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่การขายผ่านกลุ่มลูกค้าโรงแรมและร้านอาหาร( Horeca) เช่น ภัตตาคาร MK Suki, S&P, สีฟ้า , ChefMan ,โคคา ภัตตาคารโฟร์ซีซัน โรงแรมดุสิตธานี การบินไทย เป็นต้น สร้างรายได้ 15% นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ อาทิ Makro, BigC, Tops Super market, Foodland, Villa Market สร้างรายได้ 10% ของรายได้ในประเทศไทย ลูกค้าขายส่งและร้านค้าปลีกเช่นร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตโดยเน้นเจาะตลาดผู้บริโภครายย่อยมากขึ้น
นอกจากนี้เรายังขยายฐานลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดส่งออกหลักในทวีปยุโรปและในตลาดส่งออกใหม่ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศรัสเซีย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซียและประเทศอื่นๆ ที่เป็นผู้บริโภคเนื้อเป็ดและมีการนำเข้าเนื้อเป็ดสูง และสร้างอัตรากำไรที่สูงให้แก่บริษัท ฯ
ในอนาคตเรามองว่า เราจะมีเป็ดสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็นระดับไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านลาบเป็ด จนกระทั่งเป็ดโฟร์ซีซัน เป็ดระดับร้านอาหารในโรงแรมชั้นหนึ่ง โดยเราจะมุ่งเน้นคุณภาพเป็นหลัก

โครงการในอนาคต เราจะโฟกัสมากขึ้นเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภค เราจะพยายามผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อเสริมชีวิตผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เราจะเติบโตไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์ เราจะเป็น Innovator เดิมบางกอกแร้นช์เราเป็นเจ้าแรกที่ผลิตสินค้าใหม่ ๆ ออกมา เราเป็นเจ้าแรกที่ส่งออกไปยุโรป ฮ่องกง ล่าสุดส่งออกผลิตภัณฑ์เป็ดไปที่รัสเซีย ในอนาคตเราจะขยายต่อไปโดยเฉพาะในตลาดเอเชียและยุโรป
การที่เราสามารถมายืนอยู่ที่จุดนี้ได้ ต้องเรียนให้ทราบว่าบริษัทเราทั้งในประเทศไทยและเนเธอร์แลนด์ เราเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เรียกว่า ไดนามิค คือมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีการแข่งขันที่เข้มข้น ที่ผ่านมาลูกค้าทั้งในประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศพัฒนาแล้ว เราโชคดีที่ได้บริการลูกค้าผู้ประกอบการภัตตาคารที่ดีที่สุดสำหรับเป็ด เช่น โฟร์ซีซัน เพราะฉะนั้นสินค้าเราต้องดีที่สุดเพื่อรองรับลูกค้าได้ ทำให้เราต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเราอยู่ในสภาพแวดล้อมรายรอบกับคนเก่ง ถ้าจะให้บริษัท ฯ ไม่ว่าจะแข่งขันกับตัวเอง เพื่อให้อยู่ในอุตสาหกรรมในประเทศระดับต้น ๆ เราต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเราได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลไทย ซึ่งต้องขอชมรัฐบาลไทยที่มีเป้าหมายอยากพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์ปีกให้เป็นระดับต้นๆ ซึ่งประสบความสำเร็จ ทำให้บางกอกแร้นช์ก้าวมาอยู่ถึงจุดนี้ได้

จุดแข็งของเราคือเราโฟกัสเรื่องเป็ด ในฐานะผู้ก่อตั้งทั้งผมและผู้ก่อตั้งที่เนเธอร์แลนด์ เราก่อตั้งบริษัทมายาวนานกว่า 30 ปี และที่เนเธอร์แลนด์ 50 ปีแล้ว มีประสบการณ์อันยาวนาน นับได้ว่า
1.เราเชี่ยวชาญเรื่องเป็ด เราโฟกัสเรื่องเป็ดแต่เพียงอย่างเดียว คิดถึงเรื่องเป็ดตลอด 24 ชั่วโมง
2 .เราโฟกัสเรื่องเทคโนโลยี ของไทยมีจุดแข็งเรื่องฟาร์ม ของเนเธอร์แลนด์มีจุดแข็งที่โรงเชือด เราสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านเทคโนโลยี อะไรดีเราสามารถนำเอามาใช้ได้ ด้วยประสบการณ์อันยาวนาน เราคิดพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ด้วยกัน เราเรียนรู้วิธีการการเลี้ยงดูเป็ดที่ดีว่าเขาทำอย่างไร คนผลิตเครื่องจักร เราต้องพัฒนาเครื่องจักรให้ดี ถอนขนให้เกลี้ยง เราทำงานด้วยกันตลอด สุดท้าย
3. เราเป็น Innovator เราได้มีโอกาสทำงานร่วมกับผู้เกี่ยวข้องโดยตรง อย่างใกล้ชิด ทำให้เรามองเห็นว่าต้องทำอย่างไรให้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ทำอย่างไรให้มีสินค้าใหม่ ๆ มาเสริมความต้องการของลูกค้าได้
โอกาสในอนาคต เรามองว่าโอกาสเกิดขึ้นจากการที่สภาพแวดล้อมในโลกเปลี่ยน คนรวยขึ้น ประเทศพัฒนาขึ้น คนมีเงินเยอะขึ้นก็อยากบริโภคเนื้อมากขึ้น สินค้าหลากหลายขึ้น ไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยน เดิมคนรับประทานข้าวที่บ้าน แต่เวลานี้ครอบครัวเล็กลง เวลาทำอาหารไม่มี คนต้องการความหรูหรา สะดวกสบาย ออกมารับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้สินค้าของเราซึ่งเป็นเป็ด เป็นสินค้าหรูหรา และปกติไม่ค่อยมีคนซื้อเป็ดไปรับประทานที่บ้าน ทำให้เป็นโอกาสให้ธุรกิจเป็ดขยาย ปกติไม่ทานทุกวัน ส่วนใหญ่ทานที่ร้านอาหาร และโอกาสที่เราจะขยายธุรกิจไปรอบประเทศข้างเคียง คนแถบอินโดนีเซีย เวียดนาม เรามองว่าเป็นโอกาสที่ให้ผู้ประกอบการที่มีความสามารถมีคุณภาพอย่างเรา สามารถเข้าไปเจาะตลาดนั้นได้ ทำให้เรามีโอกาสขยายตลาดมากขึ้น ในเมืองไทยประชากร 60 ล้านคนประชากรรับประทานเป็ดเฉลี่ย 8 หมื่นตันต่อปี เราครองส่วนแบ่งการตลาด 50 % ถ้าเปิดเออีซี ประชากรเพิ่มขึ้น 5 เท่า ทำให้ผู้ประกอบการในเมืองไทย มีโอกาสส่งสินค้าไปขายได้มากขึ้น

ตลอดระยะเวลากว่า 31ปี ธุรกิจของเราเติบโตมาเรื่อย ๆ และได้มีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่สำคัญ ๆ เช่น ปี 2540 บริษัท ฯ ประสบปัญหาวิกฤตต้มยำกุ้ง ค่าเงินบาทลอยตัว เป็น จังหวะที่บริษัทขยายธุรกิจต้องกู้เงินเป็นดอลล่าร์ short term ที่อัตรา 25บาท อีกวันกลายเป็น 50 บาท นับเป็นปัญหาเรื่องหนี้ ในมุมเรื่องธุรกิจเป็นไปได้ด้วยดี แต่เรื่องค่าเงินบาท สร้างปัญหามากต้องเข้าแผนฟื้นฟู พอเข้าแผนฟื้นฟูมีพาร์ทเนอร์เป็น กองทุนนาวิส เอเชีย ฟันด์ ของ Navis Capital Partners ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นหลัก เราเป็นมืออาชีพด้านทำธุรกิจเป็ด ทาง Navis เป็นมืออาชีพด้านการเงิน และรู้เรื่อง Business Strategies บริษัท ฯ เข้าแผนฟื้นฟู 1 ปีและกลับออกมา นับเป็นบริษัทแรกในช่วงวิกฤเศรษฐกิจปี 2540 ที่ออกมาจากแผนฟื้นฟู ฯ ได้สำเร็จ
หลังจากนั้น บริษัท ฯ ดำเนินธุรกิจและเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปี 2547 บริษัท ฯ ประสบกับการดำเนินธุรกิจที่ถดถอย เพราะต้องเผชิญกับการระบาดของไวรัสไข้หวัดนกทั่วประเทศ แต่อย่างไรก็ตามทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหารวมทั้งหามาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันและควบคุมปัญหาให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ไข้หวัดนกเป็นจุดที่ทำให้ธุรกิจสัตว์ปีกในเมืองไทย เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เดิมผู้ประกอบการธุรกิจเล็ก ๆ จะทำธุรกิจแบบไม่ได้มาตรฐาน ต่อมาเมื่อมีไข้หวัดนกระบาดทำให้รัฐบาลเข้มงวดจริงจังพัฒนาอุตสาหกรรม มีมาตรการเรื่องเป็ดไล่ทุ่ง เลิกหมด ทำให้บางกอกแร้นช์ ในฐานะผู้ผลิตอาหารครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ สู่การผลิตอาหารสู่มือผู้บริโภค (From feed to fork) บริษัทฯ มีมาตรการเข้มงวดในการบริหารจัดการควบคุมวงจรคุณภาพในห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่โรงงานผลิตอาหารสัตว์จนถึงโรงงานแปรรูปอาหาร ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ และบทบาทในสังคม ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ถูกสุขอนามัยให้แก่ผู้บริโภคและลูกค้าของบริษัทฯ จากวิกฤตกลายเป็นโอกาส เรามีความสามารถในการส่งออกผลิตส่งออกเป็ดย่างไปยุโรป 1หมื่น - 2 หมื่นตัวในขณะนั้น
ต่อมาปี 2556 ผม คุณโรซานน่า (ภรรยา) และคุณเคิร์ดจอง ทอมาเซ่น ผู้ก่อตั้งที่เนเธอร์แลนด์รวมทั้งผู้ร่วมทุนอื่นๆ ทำการซื้อหุ้นคืนจากกองทุนนาวิส เอเชีย ฟันด์

สำหรับปี 2558 นี้ เรามีแผนระดมทุนในตลาด ฯ มาเพิ่มทุน โดยบริษัทฯ วางแผนที่จะขยายธุรกิจทั้งในประเทศ และ ตลาดส่งออกสำคัญ ๆ อย่างมีนัย โดยตลาด ในประเทศ บริษัทฯ มุ่งเน้นการเจาะตลาด Horeca หรือ ผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรมต่างๆ ซึ่งมีมูลค่า ตลาดใหญ่ และมีการเติบโตสูง ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมากที่หลากหลายและตรงตามความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายตลาดส่งออก โดยเพิ่มยอดขายในตลาดเดิมที่สำคัญ และ เจาะสู่ตลาดใหม่ที่สำคัญ อาทิ จีน ญี่ปุ่นและภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนามและอินโดนีเซีย ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะระดมทุน ผ่านตลาดหลักทรัพย์ ฯ ด้วยการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4,569.6 ล้านบาท และมีแผนที่เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 228,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25.0% ของทุนจดทะเบียน โดยบริษัทฯ มีความประสงค์จะนำเงินที่ได้ จากการระดมทุนไปขยายธุรกิจโรงงานชำแหละและแปรรูปอาหารจากเนื้อเป็ด และธุรกิจฟาร์มเลี้ยงเป็ดเนื้อ ของบริษัทฯ ตลอดจนเป็นเงินทุนหมุนเวียนและชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน

สำหรับหลักการทำงานของผมนั้นงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ชีวิตกับงานรวมเป็นเรื่องเดียวกัน ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ได้คิดเรื่องอื่น นอกจากทำอย่างไรที่จะพัฒนาเรื่องเป็ดให้ดีขึ้น นักลงทุนหลายคนที่ได้รู้จัก เขาตัดสินใจลงทุนกับเราด้วยเหตุผลที่ว่าได้ร่วมลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง ซึ่งรู้จริงว่าธุรกิจนี้ทำอย่างไร แตกต่างจากบริษัทอื่นตรงที่บริษัทอื่นอาจมีหลายแผนก ถามว่าเจ้าของเขา expert เรื่องอะไร ตอบยาก แต่บริษัท ฯ ของเรานี้ เจ้าของเกิดมาอยู่กับเป็ด เก่งเรื่องเป็ด กินอยู่กับเป็ดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นคอนเซ็ปต์ของทั่วโลกว่า การที่ผู้ประกอบการสามารถนำงานกับชีวิต มาเป็นเรื่องเดียวกัน และมีความสุขกับการทำงาน เมื่อประสบความสำเร็จ กำไรก็จะตามมา เพราะเราได้ทำในสิ่งที่ชอบ ” โจเซฟ สุเชาว์วณิช กล่าวแนะนำทิ้งท้าย.

จัดทำโดย Advanced Business Magazine
ผู้อ่านสามารถโหลด (อ่านฟรี) ได้ที่ Ookbee, Magzter, Meb หรือ
(อ่านออนไลน์ทั้งเล่มฟรี)
ได้ที่นี่http://issuu.com/advancedbusinessmagazine/…/e-book_315_rgbre
Comments