แล้วมันจะผ่านพ้นไป

วันและเวลาช่วงเป็นโอกาสสำคัญของชีวิต ก็เลยนึกถึงเรื่องแหวนวิเศษจากหนังสือ เรื่องคม ๆ ความหมาย ชวนคิด รวบรวมโดยคุณสุริยเทพ ไชยมงคล ขึ้นมาทันที เรื่องเล่าว่า.........................

พระราชาผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งแห่งอาณาจักรฮีบรูทรงพระนามว่า พระเจ้าโซโลมอน ได้มีพระราชโองการให้เจ้าเมืองต่าง ๆ ในแว่นแคว้นประเทศของพระองค์ จัดทำของวิเศาขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นอะไรก็ได้ เพียงขอให้มีความมหัศจรรย์ คือ ต้องสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของพระองค์ได้ทันที ที่เห็นของสิ่งนี้ โดยมีรายละเอียดว่า “ เมื่อข้ามีความทุกข์อยู่ เห็นของสิ่งนี้ก็จะคลายความทุกข์ได้ในทันที เมื่อข้ามีความเศร้า ความผิดหวัง หมดกำลังใจ ท้อแท้ พอเห็นของสิ่งนี้แล้ว อารมณ์เหล่านั้นก็จะหายไปอย่างฉับพลันทันทีทันใด “

ปรากฎว่า ไม่มีเจ้าเมืองใดที่สามารถหาหรือสร้างของวิเศษที่มีคุณสมบัติพิสดารอย่างที่ว่านั้นได้ เมื่อครบกำหนดเวลา แต่มีเจ้าเมืองเล็ก ๆ ในท้องที่ห่างไกลออกไปจากเมืองหลวง ได้จัดทำของวิเศษมาบรรณาการแด่พระเจ้าซาโลมอน เมื่อเปิดดูแล้วเห็นเป็นแหวนวงเล็ก

เมื่อพระเจ้าซาโลมอนทอดพระเนตรแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นของวิเศษแต่อย่างใด เมื่อพิจารณาแล้วก็เป็นแค่แหวนธรรมดา ๆ เท่านั้น จึงตรัสถามเจ้าเมืองผู้นำแหวนมาถวายว่า “ นี่ เจ้าคิดจะล้อเล่นกับเราหรือ แหวนนี้ไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลย “

เจ้าเมืองเล็ก ๆ ได้ทูลว่า “ ขอเดชะพระอาญาไม่พ้นเกล้า ขอพระองค์ทรงทอดพระเนตรให้ถ้วนถี่อีกสักครั้ง ก็จะทรงเห็นว่าแหวนวงนี้มีข้อความสลักอยู่ “ แล้วมันจะผ่านพ้นไป “ นี่คือข้อความวิเศษที่สุดที่ปวงราชบัณฑิตในเมืองของพระองค์ประชุมและคัดสรรขึ้นมาจารึกในแหวนวงนี้ และด้วยอานุภาพของถ้อยคำนี้ จะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของพระองค์ได้ในทุกสถานที่ สถานการณ์ พ่ะย่ะคะ “

ใช่แล้วครับ ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็ผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นสิ่งดี ๆ อารมณ์ดี ๆ หรือสิ่งเลวร้ายของชีวิต ไม่ว่าจะสุขหรือจะทุกข์ ในที่สุดก็ต้องผ่านไป ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน มั่นคงถาวร ทุกอย่างต่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่มีสิ่งใดที่อยู่เหนือกาลเวลา แม้ชีวิตของเราแต่ละท่านก็ตาม จะถูกกาลเวลากัดกลืนไป จึงไม่ควรยึดหรือเก็บกักความรู้สึก ขังความโกรธความเกลียด อาฆาตพยาบาทเอาไว้กับตัวเราเอง ดังนั้นชีวิตของเราจะมีความสุขก็คือ “ การปล่อยวาง “ ด้วยความคิดตามคำในแหวนวิเศษนั้น คือ “ แล้วมันก็จะผ่านพ้นไป “ ก็เท่านั้นเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่ทำอะไรเลย จะไม่ต่อสู้ดิ้นรนกับชีวิต เราทำอย่างดีที่สุด และถ้าเราไม่เป็นอย่างที่เราคิด ก็ต้องช่วยให้ตนเองไม่ทุกข์อย่างนั้น ถึงตรงนี้ ทำให้คิดถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า “ เมื่อมีลาภ ก็มีเสื่อมลาภ เมื่อมียศก็มีเสื่อมยศ มีสรรเสริญก็มีนินทา มีสุขก็มีทุกข์ “ หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันเข้ามาเป็นธรรมดาของมนุษยโลก จะไปนึกคิดวิตกกังวลอะไรให้มากมาย เพราะยังไง มันมาแล้ว มันก็จะผ่านไป

ยามเรามีสุข เรามักคิดจะเก็บตวงความสุขนั้นให้อยู่กับเราตลอดไป แท้ที่จริง ทุกคนตามกำหนดเวลาแล้ว จะมีสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิตด้วยกันทุกคน

อดีตก็ให้มันผ่านไป ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และไม่วิตกกังวลกับอนาคตที่ยังไม่ย่างกายเข้ามาในชีวิตเรา จะปีใหม่แล้ว ตามธรรมเนียมเราก็จะส่งพรปีใหม่ให้แก่กันและกัน คำว่า “ พร “นั้นแปลว่า “ คำพูดที่แสดงความปรารถนาดี “ คนให้พร เป็นผู้แสดงความปรารถนาดี แต่ผลของคำอวยพรนั้น เกิดจากผู้รับพร กระทำความดี ความเป็นมงคล ให้กับชีวิตของตน เท่ากับว่าถ้าผู้หลักผู้ใหญ่ให้พร เป็นเพียงคำปรารถนาดี แต่การจะดีหรือไม่ก็อยู่กับเราแต่ละท่านที่เป็นผู้รับพร

เมื่อเอ่ยถึงพรของพระพุทธองค์แล้ว พระพุทธองค์เองก็ไม่ได้ให้พร แต่สอนให้ผู้รับพรทำความดีแทน มีปัญญาตั้งมั่นอยู่ในธรรม( ศีล สมาธิ และภาวนา ) ตัวอย่างเช่น เมื่อนางวิสาขามาขอพรพระพุทธองค์ ตรัสว่า “ ตถาคตเลิกให้พรแล้ว วิสาขา “ “ ผู้ใดทำกรรมอย่างใดไว้ ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น “ ทั้งนี้ความสำเร็จจะเกิดขึ้น มิใช่จากพรที่รับ แต่มาจากผลกรรมหรือการกระทำที่ทำไว้

ในการดำเนินชีวิตของเรา จะประสบความสำเร็จได้ต้องเริ่มที่พลังแห่งศรัทธา ศรัทธาต่อครอบครัวของเรา ศรัทธาต่อเพื่อนร่วมงานและผู้ที่เราติดต่อพบปะ ศรัทธาต่อสังคมประเทศชาติ ศรัทธาต่อวิชาชีพของเรา ศรัทธาต่อองค์พระบาทพสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ และที่สุดของที่สุดคือศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราแต่ละคนเคารพนับถือ คำว่าศรัทธาในพจนานุกรมไทยได้ให้ความหมายว่า เลื่อมใส ยินดี ความเชื่อถือ ความเลื่อมใส ความเห็นดี ความไว้วางใจ ความซื่อตรง ความจงรัก ความประสงค์ดี ความบริสุทธิ์ ความเคารพนับถือ

เจริญชีวิตและการงานด้วยความดี อาศัยเวลาและการกระทำ มิใช่ด้วยคำพูด มีความร่าเริงเป็นยาบำรุง ความหวังเป็นยาบำรุง เมตตาเป็นยาบรรเทา คนทำงานในวัยทำงาน ให้เราทำงาน อย่าให้งานทำเรา ทำให้งานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และให้ชีวิตรู้จักรักการงาน ดำเนินชีวิตโดยก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา เก็บอดีตและปัญหาของเราไว้ข้างหลังเรา( Keep moving if you love life, and keep your troubles well behind you.)

ธรรมะ มาจากคำว่า ธรรมชาติ ธรรมชาติคือการเปลี่ยนแปลง เมื่อมันผ่านมา แล้วมันก็จะผ่านไป และข้อคิดสุดท้าย จงศึกษาหาความรู้ เพราะความรู้เป็นอำนาจในตัวของมันเอง ( For Knowledge, Too< is itself a Power.)

จงทำพรปีใหม่ที่ประเสริฐที่สุดให้แก่ตนเอง ด้วยการทำดี ประพฤติธรรม อยู่ในศีลธรรม หัดเจริญสมาธิ เป็นผู้ยิ่งด้วยปัญญานะครับ

“ ขอความเจริญในธรรม เจิรญในความดี เจริ(ญในพรอันประเสริฐ มีแด่ทุกท่าน “

#wordofwisdom