กทพ. แนะนำวิธีขับรถในฤดูฝนอย่างปลอดภัย
- Advanced Tips
- 11 มิ.ย. 2558
- ยาว 1 นาที

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม แนะนำวิธีขับรถอย่างปลอดภัยบนทางพิเศษในฤดูฝนซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ เนื่องจากถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี ดังนั้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น กทพ. ขอแนะวิธีขับรถอย่างปลอดภัยในช่วงฤดูฝน ดังนี้
การเตรียมสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบระบบสัญญาณไฟให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี และตรวจสอบอุปกรณ์ใบปัดน้ำฝนให้สามารถปัดกวาดน้ำฝนได้สะอาด รวมถึงหมั่นเติมน้ำในกระปุกฉีดน้ำอยู่เสมอเลือกใช้ยางรถยนต์ที่มีดอกยางละเอียด เติมลมยางให้มีแรงดันลมมากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อให้ หน้ายางแข็ง ซึ่งจะช่วยให้ยางมีกำลังในการรีดน้ำดียิ่งขึ้น ตลอดจนตรวจสอบผ้าเบรกให้สามารถใช้งานได้ดีในสภาพถนนเปียกลื่น หากเบรกแล้วรถมีอาการปัด ให้จัดการเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่
เปิดไฟหน้า-หลังรถ เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงที่ฝนตกหนักมักมืดครึ้มคล้ายช่วงหัวค่ำ ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน การเปิดไฟหน้า-หลังรถนอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นเห็นรถของเราได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย
ลดความเร็ว จากการศึกษาพบว่าช่วงที่ฝนเริ่มตกใน 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาสลื่นไถลมากที่สุด เพราะน้ำฝนจะชะล้างคราบดินและฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนพื้นถนนซึ่งมีลักษณะคล้ายการละเลงโคลน ดังนั้น การลดความเร็วของรถ จึงเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งระดับความเร็วที่ทำให้รถไม่เกิดการลื่นไถล คือ 60 ก.ม./ช.ม.
หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรงๆ หรือการเบรกกระทันหัน การค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักเหยียบเบรกเพื่อ ชะลอความเร็วลงนับว่าเป็นวิธีการขับขี่ที่เหมาะ สมที่สุด เพราะหากเหยียบเบรกอย่างรุนแรง รถอาจลื่นไถลได้
ไม่ขับรถชิดคันหน้ามากเกินไป เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ทำให้ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น ผู้ขับขี่ ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าการขับขี่ในช่วงปกติ 10-15 เมตร เพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทัน
หากขณะขับรถแล้วรถลื่นไถลหรือเหินน้ำ ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะจะทำให้รถ พลิกคว่ำได้ ให้แก้ไขด้วยการถอนคันเร่ง ควบคุมพวงมาลัยให้มั่นคงแล้วพยายามลดความเร็วโดยใช้เกียร์ต่ำจนกว่ารถจะ ทรงตัวได้แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ
กรณีที่ท่านไม่ได้รับความสะดวกหรือมีเหตุขัดข้องต้องการความช่วยเหลือบนทางพิเศษ สามารถติดต่อศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (EXAT Call Center) โทร 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินที่ติดตั้งอยู่บนทางพิเศษทุกระยะ 500-1,000 เมตร แจ้งเหตุได้เช่นกัน
Comments