กระดาษใบหนึ่ง : ความพอดีของชีวิต
- Words of wisdom -- Credit by...Roj Wongprasert
- 3 มิ.ย. 2558
- ยาว 2 นาที

เพื่อนไลน์มาให้...ตอนเรียน ได้เงินจากผู้ปกครองน้อย...เราก็อยากทำงานหารายได้ข้องตนเอง “จะได้มีอิสระ “ หาเงินใช้เองได้ ไม่ต้องงอนง้อขอพ่อแม่
พอเรียนจบ มีงานมีการทำ แต่ทำงานก็ต้องมีหัวหน้าในที่ทำงาน เจอหัวหน้าโหด เงินเดือนก็น้อย...แต่งานมาก ก็อยากเป็นหัวหน้า ไม่ต้องขึ้นกับหัวหน้า “ เป็นอิสระ” ไม่ต้องถูกเรียกใช้ทำงาน มีรายได้เพิ่ม มีลูกน้องไว้ใช้งาน...
พอต่อมาเป็นหัวหน้า ไปเจอเอ็มดี//ซีอีโอ สั่งงานหนัก...ทั้งเป้าหมาย ทั้งประหยัดงบประมาณ งบน้อยแต่ต้องได้งานมาก ก็อยากเป็นเอ็มดีหรือซีอีโอกับเขาบ้าง “จะได้มีอิสระ “ บริหารบริษัทได้ทั้งหมด แถมได้เงินเดือนเยอะ ๆ คิดอยากจะทำจะสั่งงานอย่างไรก็ได้แล้วด้วยตนเอง
มีบุญวาสนาได้เป็นเอ็มดีหรือซีอีโอสมใจอยาก ไปเจอผู้ถือหุ้นเจ้าของบริษัท บีบเราหนัก จะเอายอดขาย จะให้ประหยัด ให้ขยายกิจการบริษัท ต้องการกำไร กำไรให้ได้ พอได้กำไร หาว่าตกแต่งบัญชี พอขาดทุนโดนตำหนิว่าบริหารไม่เป็น ก็เลยอยากเป็นเจ้าของกิจการบ้าง “ จะได้มีอิสระ” พ้นจากคณะกรรมการเสียที จะได้สั่งคนได้ เหนื่อยแต่รายได้เป็นของเราทั้งหมด
พอมาเป็นเจ้าของกิจการ เจอลูกค้าโหด เอาแต่ต่อรองราคา กำไรหดหาย ก็อยากเลิกทำธุรกิจ มาเป็นนักลงทุน “จะได้มีอิสระ “ ไม่ต้องพึ่งใครอีก
พอเป็นนักลงทุน เจอนักลงทุนรายใหญ่ ปั่นหุ้นจนหัวหมุน เจอตลาดผันผวนหนัก เศรษฐกิจภายในประเทศไม่ดี การเมืองวุ่นวาย เศรษฐกิจนอกประเทศชะลอตัวไม่กล้าเข้ามา เปิดเสรีการค้า เจอนักลงทุนต่างประเทศมีเงินมากกว่า สู้เขาไม่ได้ ก็อยากออกจากธุรกิจ ไปอยู่เสียเฉย ๆ “จะได้เป็นอิสระ “ ไม่ต้องง้อใคร นั่งกินดอกเบี้ยแบงค์เอา
ตอนไม่ต้องง้อใคร ทำท่าว่าจะพบกับอิสระขึ้นมาจริง ๆ ก็เริ่มแก่ชราเสียแล้ว สุขภาพไม่ดี ไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไร อยากเป็นอิสระจากความแก่ความตาย แต่ก็จนปัญญาเพราะเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ ไม่มีใครหนีความแก่ความตายไปได้
สรุปเอาว่าที่คาดหวัง อยากเป็นอิสระกับชีวิตนั้น ค้นหามาตั้งแต่เด็กยันแก่ชรา ความอิสระที่สมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต็นั้นหามีไม่ ทุกคนต้องเจอข้อจำกัดของชีวิตกันทั้งสิ้น ไม่ว่ารวยหรือจน รวยที่สุดหรือจนที่สุด เป็นคนจนก็กลุ้มอย่างน้อยก็กลุ้มที่ไม่มีเงินใช้ คนรวยก็กลุ้ม ว่าจะดูแลเงินอย่างไร คนรวยบางคนก็กลุ้มเพราะความงกของตนเอง รวยแล้วอยากรวยมากขึ้นอีก จนต้องใช้อำนาจวาสนาที่มี เที่ยวโกงกินชาวบ้าน เพราะความหวังว่าจะรวยมากขึ้น ก็ไม่สามารถจะเป็นอิสระได้ มีศัตรูมากมาย บางทีก็ถูกลูกน้องโกงหรือรีดไถเอาบ้าง ต้องทำประโยชน์ดูแลคนรอบข้าง ลิ่วล้อจำนวนมาก กลายเป็นทาสของลูกน้องเสียนี่ กลับกัน
บ่อยครั้งเจอคำถามจากเพื่อน คนเราเกิดมาเพราะมีบุญที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่ได้เกิดมาเป็นสัตว์ หรือว่าคนเราเกิดมาเพราะมีบาป ต้องมาชดใช้บาปหรือกรรมเวรในชีวิตนี้ เพื่อนคนหนึ่งบอกว่า คนเราเกิดมาเพียงเพื่อชดใช้กรรมในชาตินี้กับคนบางคน แล้วเมื่อชดใช้กรรมแล้วก็ต้องจากไป เหมือนกันบางคนถามว่าอายุยืนเป็นคนมีบุญหรือมีบาปเลยต้องอยู่ชดใช้กรรมลำบากจนแก่ชรา ในทางตรงกันข้าม คนที่เสียชีวิตอายุไม่มากเป็นคนมีบุญหรือมีกรรม คิดดูแล้วก็เจอเหตุผลทั้งสองฝั่ง
จะหาความเป็นอิสระเสรีครบบริบูรณ์นั้น ไม่มีในโลก บางทีมนุษย์ก็ดิ้นรนเอาเป็นเอาตาย จริงจังกับชีวิตเกินไป ก็ไม่ดีนัก เพื่อนคนหนึ่งให้ข้อคิดว่า คนเราหาเพียง” กระดาษหนึ่งใบของชีวิต”
ใบเกิด เริ่มต้นชีวิตใหม่
ใบปริญญา ต่อสู้ดิ้นรน แม้กระทั่งโกงการสอบ หรือปริญญาปลอมก็เอา
ใบสมรส เพื่อขาดอิสระทั้งชีวิต
ใบราชการ แก่งแย่งชิงดีทั้งชีวิต
ใบแต่งตั้ง สับสนวุ่นวายเมื่อได้มันมา
ใบธนบัตร ชีวิตนี้ขาดไม่ได้เลย
ใบประกาศเกียรติคุณ ให้หลงไหลในตนเอง
ใบรับรองแพทย์ เพื่อความสบายใจ ไม่รู้ว่าจริง ๆ สมบูรณ์หรือไม่
ใบมรณบัตร สิ้นสุดของชีวิต พ้นทุกข์เสียที แต่หนี้และภาระตกอยู่กับคนอื่น
ทุกชีวิต ทำเพื่อกระดาษใบเดียวเท่านั้น มีค่ามีราคาหรือไม่ อยู่ที่แต่ละคนจะได้มาอย่างไร และจะใช้อย่างไรมากกว่า บางคนได้กระดาษใบหนึ่งแสดงงคุณวุฒิถึงดอกเตอร์ แต่ความรู้ความสามารถสู้คนได้ใบจบปริญญาตรีไม่ได้ อย่างนี้ก็เท่ากับได้ใบมาแต่เสียของเสียคุณค่ามากกว่า
อ่านมาถึงตรงนี้ ดูเหมือนว่าคนเขียนกำลังท้อแท้ และชวนคนอ่านให้ท้อแท้ เจตนาจริง ๆ เป็นเพียงให้เห็นภาพจริง ๆ ของมนุษย์ แต่ถ้าจะหาอิสระ หรือความสมดุลของชีวิตจริง ๆ แล้ว เราคงต้องยอมรับว่าไม่มีในโลกนี้จริง ๆ แม้คนที่ยอมเสียสละไปบวช ก็ยังหาไม่ได้ ในกลุ่มนักบวชก็ยังมีการทะเลาะเบาะแว้งชิงดีชิงเด่น ความพอดีหรืออิสระนั้น คิดแล้วอยู่ในจิตใจของเรามากกว่าที่ปรากฏภายนอก จะทุกข์จะสุขก็อยู่ที่ใจของเรา ถ้าเราถือไม่ปล่อยวางเราก็เป็นทุกข์ แต่ถ้าเราไม่ถือแต่ปล่อยวางเราก็มีความสุข คนที่มีจิตใจเป็นสุขร้อยเปอร์เซ็นต์ เห็นมีเพียงพระอรหันต์จำพวกเดียวเท่านั้น จิตใจขาวผ่องจะเป็นอยู่อย่างปกติ เป็นอิสระ ไม่มีอะไรเบียดเบียน ไม่มีอะไรครอบงำจิตใจให้หม่นหมอง ดังนั้นมนุษย์อย่างเราคงยังไม่ถึงความเป็นอิสระ เพราะความอยากได้ จิตที่คิดจะได้ ยังต้องการอยู่จะไม่รู้สึกพอใจ ไม่รู้สึกอิ่มใจ ทุกคราวที่หม่นหมองวิตกกังวลขุ่นมัวและร้อนใจ ล้วนแต่เป็นจิตที่ไม่อิสระทั้งสิ้น
เริ่มต้นในตัวเราก่อน อย่าเพิ่งคิดถึงคนอื่น เราต้องรักดี คิดดี ทำดี ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์จะทำได้ พรุ่งนี้หรืออนาคตวันอื่น ๆ ยังไม่ต้องคิด มีหน้าต่างชีวิตในปัจจุบัน อยู่อย่างรอบคอบ อยู่อย่างพอเพียง รู้จักปล่อยวาง ไม่ยึดถือ ไม่ทุกข์แต่ต้องทำให้ดีที่สุด ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว ผลออกมาอย่างไรเราก็มีความสุข เพราะเราได้ตั้งใจทำดีที่สุดแล้ว
แต่ในทางตรงกันข้าม หากเราไม่ได้พยายามทำแต่ละวันด้วยความเพียรมานะอดทน ความสำเร็จและผลงานย่อมไม่เป็นที่ประทับใจ ความสุขย่อมไม่เกิดกับตัวเรา บางคนอาจจะประสบโชคดี แต่โชคดีนั้นไม่ได้มีมาทุกวัน เรามักใช้คำว่า ” ได้มาอย่างฟลุ๊คๆ ไม่ใช่ฝีมือ “ “ ความเพียรพยายามนั้น อาจไม่ได้นำพาความสำเร็จมาให้ทุกครั้ง แต่ความสำเร็จทุกๆครั้งนั้น จะได้จากความเพียรพยายาม “
ตรงนี้มากกว่าที่เป็น ” ความพอดีของชีวิต ” อันหมายถึงความรับผิดชอบของตัวเรา การทำหน้าที่ของมนุษย์ให้เต็มที่ และที่สุดก็ยอมรับในผลที่ออกมา โดยไม่ไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น อิจฉาที่เขาดีกว่า หรือน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิตของตนเอง คนเรามีทั้งสุขทั้งทุกข์ด้วยกันทุกคน คนรวยก็มีทุกข์คนจนก็มีทุกข์ หากไม่รู้จักความพอดีของชีวิต
มีธรรมมะบทหนึ่ง เขียนเตือนสติเราไว้ว่า
“ ชีวิต...คือ.....ข้อสอบ
คำตอบ...คือโชคชะตา
ศรัทธา...คือ....แรงบันดาลใจ
จิตใจ....คือ...เครื่องนำทาง
ทุกอย่าง....คือ...ไม่แน่นอน “
พอดีหรือไม่พอดีของชีวิต
อยู่ที่ “ ใจ “ ของเราแต่ละคน ครับ
ขอจงดำเนินชีวิตอย่างรอบคอบเพื่อความสุขของชีวิตของท่านผู้อ่าน สำหรับคนทำงาน จงอย่าทำงานเพราะเงินเป็นสำคัญอย่างเดียว อย่าทำงานเพราะความก้าวหน้าในงาน หวังตำแหน่งหน้าที่การงานเพียงอย่างเดียว อย่าทำงานเพราะเห็นแก่คนในที่
ทำงานเพียงอย่างเดียว แต่การสร้างความพอดีของชีวิตการงานนั้น จงทำงานเพราะเราตั้งใจทำงาน เพราะความรักในงาน เพราะความต้องการสามประการแรก จะทำให้เราโลภ โกรธ และหลง ชีวิตจะขาดความสุข แต่ถ้าเราทำงานเพราะเราตั้งใจจะทำ ทำให้เราอยู่กับงานอย่างมีสุข เติมความศรัทธาลงไปในงาน เติมความรู้ลงไปในงาน เติมใจลงไปในงาน และเติมมิตรเติมเพื่อนในที่ทำงาน นั่นจะเป็นความสมหวังที่สุดของชีวิตครับ.
コメント