เผย 6 วิธีง่ายๆหาเงินแสนจากธุรกิจขายเสื้อในออนไลน์

ผมได้มีโอกาสทำธุรกิจขายเสื้อออนไลน์หรือที่เรียกกันว่า Teespring วิธีการขายเสื้อออนไลน์บน Teespring นั้น “น่าสนใจ” และ “สนุก” ครับ เป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ตั้งแต่การหากลุ่มเป้าหมาย (Niche) การหาคำพูดเสื้อ การดีไซน์เสื้อ จนถึงการลงโฆษณาและดูผลลัพธ์จากเสื้อที่ลงขาย ซึ่งผมคงไม่มีโอกาสได้เรียนบทเรียนเหล่านี้ในห้องเรียนของผมแน่ๆ ซึ่งมีหลายๆคนมาถามครับว่า เอ..เราจะหาเงินจากเจ้า Teespring นี้ได้อย่างไร? วันนี้ผมจึงมารีวิวขั้นตอนทั้งหมด 6 ขั้นตอนจากประสบการณ์การทำ Teespring ส่วนตัว ให้ทุกท่านได้รับชมกันครับ

ขั้นตอนการทำ Teespring หาเงินแสน มีอะไรบ้าง?

ผมได้สรุปและรวบรวมวิธีการทำ Teespring เป็นขั้นตอนง่ายๆ 6 ขั้นตอนเพื่อที่คุณจะได้สามารถทำตามและเริ่มธุรกิจขายเสื้อออนไลน์นี้ได้ครับ

1. หากลุ่มเป้าหมายที่ทำกำไร

ขั้นตอนแรกเลยคือการหา​ “กลุ่มเป้าหมาย” ที่เราจะขายเสื้อให้เค้าก่อนครับ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ดีที่ทำกำไรจะต้องเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีจำนวนมากและมีความภาคภูมิใจใน อาชีพของตนเอง, ในกิจกรรมยามว่าง หรือ รักสัตว์เลี้ยงของตนเองมากๆครับ เช่น กลุ่มนักดับเพลิง (Firefighters), กลุ่มคนชอบเล่นโยคะ, กลุ่มคนเลี้ยงสุนัขพันธุ์ Bulldog เป็นต้นครับ ซึ่งเราควรเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีคู่แข่งน้อยจะดีมากครับ

วิธีการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ผมแนะนำคือใช้ wanelo.com ครับ เป็นเว็บที่รวบรวมสินค้าที่มีคนต้องการจะซื้อไว้เยอะมาก และคนที่จะซื้อก็จะสามารถกด “SAVE” สิ่งที่ต้องการจะซื้อไว้ได้ ซึ่งเราก็จะค้นหาเสื้อแบบนี้ครับ อันดับแรกลองพิมพ์ว่า funny tshirt

เมื่อเอาเมาส์ไปวางที่รูปเสื้อแต่ละตัว ตรงมุมขวาบนจะมีคำว่า SAVE และจำนวนคนที่ SAVE เสื้อตัวนี้ซึ่งเค้าเหล่านั้นอาจจะเก็บไว้เพื่อมาซื้อทีหลังได้ ในขั้นตอนแรกนั้นให้เราเลือกเสื้อที่มีจำนวน SAVE เยอะๆครับ แล้วดูว่าเสื้อตัวนั้น กลุ่มเป้าหมายคือใคร เพื่อให้เรามั่นใจว่า กลุ่มเป้าหมายนี้มีคนซื้อแน่ๆครับ

2. หาคำพูดที่น่าจะ “โดนใจ” กลุ่มเป้าหมายเรา

หลังจากที่เราได้กลุ่มเป้าหมายจากขั้นตอนที่แล้วเรียบร้อย ในขั้นตอนนี้เราก็จะมาหาคำพูดที่น่าจะ “โดนใจ” กลุ่มเป้าหมายครับ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคำพูดนั้นไม่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย เค้าเหล่านั้นก็จะไม่มาซื้อเสื้อเราแน่ๆครับ แต่ถ้าคำพูดนั้น​”โดนใจ” กลุ่มเป้าหมายเรามาก ก็รอนับเงินได้เลยครับ ^^

ซึ่งวิธีในการหาคำพูดนั้น ทำได้หลายวิธีมากๆ โดยผมขอเสนอวิธีง่ายที่สุดละกันครับ คือเข้าไปที่ Google.com แล้วพิมพ์ “ชื่อกลุ่มเป้าหมาย ตามด้วย funny sayings/ quotes”

ยกตัวอย่างกลุ่มเป้าหมายของผมคือนางพยาบาล ผมก็จะพิมพ์ว่า nurse funny sayings ก็จะได้คำพูดมากมายดังนี้

ทีนี้เราก็เลือกมา 1 คำพูดที่น่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายเราที่สุดครับ

3. นำคำพูดมา “ดีไซน์” เป็นลายเสื้อ

ขั้นตอนนี้เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สนุกครับ โดยเราจะต้องนำคำพูดที่ได้จากขั้นตอนที่แล้วมาทำเป็นลายเสื้อ​ โดยเราสามารถที่จะดีไซน์ด้วยตัวเองก็ได้โดยใช้โปรแกรมพวก Photoshop หรือถ้าไม่มีพื้นฐานเลย เราก็สามารถจ้างคนงานที่ odesk.com ให้เค้าทำลายเสื้อให้เราได้

โดยสำหรับใครที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ อาจารย์เก่งมีตัวอย่างการสั่งงานคนงานให้ได้ประสิทธิภาพสอนอยู่ในคอร์สEasy Tee Profits ด้วยครับ หรือว่าใครที่ไม่อยากจะจ้างคนงาน และก็ไม่มีพื้นฐานด้านการออกแบบลายเสื้อ ผมขอแนะนำให้ลงทุนเรียนคอร์สสอนสร้างลายเสื้อด้วยตัวเองครับซึ่งจะทำให้คุณสามารถดีไซน์ลายเสื้อได้ด้วยตัวเองภายใน 10 นาทีครับ!

ในขั้นตอนนี้ เราจะได้รูปที่ใช้ในการทำเสื้อเรียบร้อยเตรียมพร้อมเพื่ออัพโหลดในเว็บไซต์ teespring แล้วครับ

4. อัพโหลดลายเสื้อและสร้างแคมเปญ

ขั้นตอนถัดมาให้เรานำลายเสื้อที่เราได้สร้างไว้ในขั้นตอนที่ 3 ไปอัพโหลดใน teespring.com และสร้างแคมเปญโดยระบุชื่อแคมเปญ รายละเอียด ราคาเสื้อที่จะขายครับ ซึ่งถ้าเราตั้งราคาได้ไม่ดี คนซื้อจะไม่ซื้อเสื้อเราครับ โดยขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่มากครับ แต่ถ้าทำผิดก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ครับ

เทคนิคที่ผมแนะนำคือให้คุณตั้งราคาให้ได้กำไรเสื้อยืดตัวละประมาณ $12-$13 หรือกำไรตัวละ 450-500 บาท เสร็จแล้วให้เราตั้ง Goal หรือเป้าหมายที่เราจะขายเสื้อในแคมเปญนี้ครับ ขั้นแรกขอให้ตั้งไว้ 50 ตัว ซึ่งสุทธิแล้วถ้าขายได้ เราก็จะได้กำไรอย่างต่ำ 50 x $13 = $650 หรือประมาณ 20,000 กว่าบาทครับ

ตัวล่าสุดของผม ขายได้ทั้งสิ้น 300 ตัว ได้กำไรเกือบแสนครับ

ข้อดีของ teespring คือเราไม่ต้องไปยุ่งกับการสกรีนเสื้อและการจัดส่งเสื้อให้ลูกค้าครับ ทาง teespring จัดการให้เราทุกอย่าง!

5. ลงโฆษณา Facebook

เมื่อเราลงเสื้อบนเว็บ teespring.com เรียบร้อยแล้ว ทีนี้เราจะมาหาคนที่มาซื้อเสื้อเราโดยเครื่องมือที่ใช้ง่ายและทรงพลังที่สุดในปัจจุบันนั่นคือ Facebook Ads หรือโฆษณา Facebook นั่นเองครับ โดยเราจะต้องเลือก “ความสนใจ เพศและอายุ” ของกลุ่มเป้าหมาย โดยเทคนิคที่สำคัญที่สุดของขั้นตอนนี้คือ

• เลือกความสนใจที่ไม่กว้างมาก

• เลือกความสนใจให้ตรง

นั่นคือสมมติเราจะขายให้กับกลุ่มนางพยาบาลแต่เราเลือกความสนใจกว้างๆคือ Nurse ทาง Facebook ก็จะแสดงโฆษณาให้กับทุกๆคนที่พูดเรื่องเกี่ยวกับนางพยาบาล โดยเขาเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่นางพยาบาลเลยก็ได้ครับ โดยปกติแล้วเลือกความสนใจแบบนี้จะขายไม่ค่อยได้ครับ

ให้เราเลือกความสนใจที่แคบลงมาเช่น American Nurse Association ซึ่งหมายถึงองค์กรพยาบาลของอเมริกา ซึ่งจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่าครับ โดยการเลือกความสนใจแคบๆแบบนี้ทำให้ผมขายได้ 300 กว่าตัวมาแล้วครับ จึงแนะนำให้ทำอย่างหลังดีกว่าครับ

6. วัดผลโฆษณา

ขั้นตอนสำคัญมากๆขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่เราควรทำทุกครั้งที่เราลงโฆษณา Facebook ครับ เมื่อเราลงโฆษณาไปแล้ว 24 ชั่วโมง เราควรมาดูผลลัพธ์ครับว่า ลายที่เราลงขายได้มั้ย กำไรรึเปล่าเมื่อหักลบค่าโฆษณา

โดยถ้ากำไรก็ให้เราเพิ่มงบโฆษณาครับ แต่ถ้าขาดทุนเราก็อาจจะเปิดดูต่อ หรือไม่ก็ปิดโฆษณานั้นทิ้งแล้วเริ่มทำลายใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 2 ครับ

วิธีนี้เป็นวิธีที่สำคัญเหมือนกัน ถ้าคุณวัดผลโฆษณาผิดก็อาจทำให้คุณขาดทุนได้ง่ายๆครับ แต่ถ้าคุณวัดผลถูกและตัดงบโฆษณาได้ทันท่วงที คุณจะได้กำไรแน่นอนครับ

6 ขั้นตอนนี้เป็น 6 ขั้นตอนหลักๆของธุรกิจขายเสื้อยืดออนไลน์หรือ Teespring นั่นเองครับ โดยถ้าคุณทำอย่างถูกวิธีแล้ว คุณจะใช้เวลาในการทำวันละอย่างมาก 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นครับ และก็จะมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ด้านล่างเป็นวิดิโออธิบายขั้นตอนทั้งหมดคร่าวๆครับ

คำแนะนำของผมสำหรับผู้ที่ต้องการจะเริ่มทำ Teespring

จากที่คุณได้ดู 6 ขั้นตอนคร่าวๆของธุรกิจ Teespring นี้ คุณจะเห็นว่าธุรกิจนี้มีความเป็นไปได้มากครับ และมีขั้นตอนที่มีรายละเอียดยิบย่อย โดยถ้าคุณทำถูกวิธี

คุณจะได้กำไรหลักแสน หลักล้านเลยทีเดียว แต่ถ้าหากคุณทำผิดวิธี คุณก็อาจจะขาดทุนได้ง่ายครับ

Credit: http://hasaveeonline.com/how-to-teespring/

#Lifestyle #Entertainment