ผ่าแนวความคิด “เลอศักดิ์ จุลเทศ” นำ PS สู่วิชั่นใหม่

เลอศักดิ์ จุลเทศกับบทบาทและหน้าที่ใหม่ที่กำลังจะกลายเป็นความท้าทาย จากการก้าวเข้าสู่การเป็น CEO ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS หนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของภาคอุตสาหกรรมทางด้านอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทย ซึ่งภารกิจ บทบาท และหน้าที่ของเขาในวันนี้เป็นสิ่งที่นอกจากจะเป็นความท้าทายแล้วยังเป็นบททดสอบ เพื่อพิสูจน์ความรู้ความสามารถที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพของเขา ด้วยเป้าหมายในการขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจลูกค้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย และก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 แบรนด์ธุรกิจจากอันดับที่ 25 ในปัจจุบันของภาคอสังหาริมทรัพย์ทวีปเอเชียภายใน 4-6 ปีนับจากนี้

เลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวถึงการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ของกลุ่มพฤกษา เรียลเอสเตทว่า บทบาทการทำหน้าที่ของเขาจะอยู่ในส่วนของการบริหารองค์ในภาพรวม ในฐานะผู้บริหารมืออาชีพที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดกับการบริหารองค์กรระดับชั้นนำของประเทศ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของกลุ่มพฤกษา เรียลเอสเตท ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกับการแข่งขันในภาคอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทยที่มีความร้อนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในเวลาเดียวกันเขายังพร้อมที่จะนำความรู้และประสบการณ์ด้านการบริหารองค์กรที่สั่งสมมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปีที่ผ่านมาในภาคการเงินการธนาคารมาช่วยเสริมให้กองทัพพฤกษา เรียลเอสเตท สามารถรักษาระดับการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาด real sect โดยพันธกิจแรกที่เขาบอกว่าจะต้องเร่งดำเนินการคือ การลดปัญหาเรื่องร้องเรียนเรื่องคุณภาพบ้านของพฤกษา เรียลเอสเตท อันเนื่องมาจากในช่วงที่ผ่านมาพฤกษา เรียลเอสเตท จะต้องประสบกับปัญหาในเรื่องของรอยร้าว การรั่วซึมของบ้านในโครงการทั้งหมดรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เปอร์เซ็นต์หรืออยู่ที่ประมาณในหลักพันยูนิต เมื่อเทียบจากปัจจุบันที่มีผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านของโครงการพฤกษา เรียลเอสเตทกว่า 1 แสนยูนิต

“จะนำประสบการณ์ในธุรกิจบริการทางการเงินกว่า 30 ปีมาปรับใช้กับอสังหาฯ ซึ่งเป็นธุรกิจบริการประเภทหนึ่งเหมือนกัน หากแก้ปัญหานี้ได้หรือปรับให้ลูกค้ามีความพึงพอใจได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะปัจจุบันเราสร้างบ้านให้คนไทยอยู่ 98 เปอร์เซ็นต์ หากทำได้ก็มีโอกาสนำความรู้ไปโชว์ในต่างประเทศ”

ส่วนการเดินแผนบริหารความเสี่ยงที่เขาบอกว่าจะยกให้เป็นเรื่องหลักของพฤกษา เรียลเอสเตทกับสกัดปัญหาของพฤกษา โดยเฉพาะข้อร้องเรียนเรื่องคุณภาพของบ้านกับภาวะ Error ทั้งผนังลอก รั่ว ร้าว ทรุดในทุกหน่วยธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮ้าส์ ก็จะถูกนำขึ้นมาพิจารณาใหม่ทั้งหมดทั้งในส่วนของอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ว่ามีลูกบ้านในโครงการพฤกษา เรียลเอสเตทร้องเรียนเข้ามามากจำนวนเท่าไหร่ ที่เขาถือว่าเป็นการรวมปัญหาจับใส่ตะกร้าแล้วเขย่าปัญหาใหม่หมดก่อนลงมือสะสางอย่างจริงจัง

“จะนำเรื่องร้องเรียนที่มีอยู่ในตอนนี้และข้อร้องเรียนย้อนหลังทั้งหมดมาดู เพื่อนำมาทำเป็น Risk map ทั้งเรื่องสภาพคล่อง การวางกลยุทธ์ การร้องเรียน และการบริหารคน ทุกอย่างที่เป็นปัญหา จุดอ่อนและอุปสรรค ต้องนำมาบริหารจัดการใหม่ ระดมสมองกัน แล้วเคลียร์ให้ปัญหาเหลือน้อยที่สุดหรือปรับให้ถึงจุดที่ผู้บริโภคพอใจ” เลอศักดิ์กล่าว

เขากล่าวต่อถึงความยากในการบริหารภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่าเป็นเรื่องของความรู้ความสามารถเฉพาะด้านที่เรียกว่าความถนัดของแต่ละคน แต่เขาบอกว่าสำหรับเขาแล้ว การมุ่งมั่นจะนำความรู้ความสามารถมาทำให้เกิดประโยชน์แก่องค์กรสูงสุดนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเขา ซึ่งจะทำให้มุ่งไปสู่วิสัยทัศน์และพันธกิจที่พฤกษา เรียลเอสเตทตั้งเป้าไว้ และจะช่วยให้พฤกษา เรียลเอสเตทประสบความสำเร็จได้ อีกทั้งการรวมพลังงานกันของคณะกรรมการบริษัท พนักงาน ทีมงานล้วนมีบทบาทสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน และนั่นเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะช่วยให้พฤกษา เรียลเอสเตทประสบความสำเร็จ

“ความยากคือเรื่องของโครงสร้าง คำโบราณบอกว่า รู้จริงสิ่งเดียวอาจมีมั่ง หาก Concentrate (มุ่งมั่น) งานตามความถนัดได้เชื่อว่าจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

ทั้งนี้ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญครั้งนี้ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ก็เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมการบริหารธุรกิจให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มทุกระดับที่อยากเป็นเจ้าของบ้าน จึงมีการแบ่งโครงสร้างองค์กร และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บริหารตาม Segment ของบ้าน ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพให้ผู้บริหารสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมบ้านและบริการ ให้สามารถสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละกลุ่มมากยิ่งขึ้น และเพื่อความคล่องตัวในการบริหารงานให้สามารถสอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของพฤกษาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

ขณะที่ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยครึ่งปีหลังมีการคาดการณ์กันว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์การเมืองอยู่ก็ตาม แต่การบริโภคในประเทศยังดีอยู่เพราะทุกคนยังต้องการขยายครอบครัว สำหรับโครงการของพฤกษา เรียลเอสเตทในครึ่งปีแรกมียอดขายไม่ต่ำกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังพฤกษา เรียลเอสเตทมีการตั้งเป้าไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลทำให้รายได้รวมปีนี้ของพฤกษา เรียลเอสเตทสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 3.4 หมื่นล้านบาท และพฤกษา เรียลเอสเตทยังมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่อีก 45 โครงการมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ทำให้รวมทั้งปีแล้วพฤกษา เรียลเอสเตทจะมีโครงการใหม่ๆ เปิดขึ้นไม่น้อยกว่า 78 โครงการ

“ขอให้มั่นใจว่าผมจะสร้างบ้านคุณภาพและบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ตอบสนองความต้องการของคนอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง หรือเปลี่ยนบ้านใหม่ แม้ตัวผมจะเป็นหน้าใหม่ในวงการอสังหาฯ ก็จะให้คำมั่นกับผู้บริโภค และทำหน้าที่ในฐานะรองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการให้ดีที่สุด ตราบใดที่มีประเทศไทย จะต้องมีพฤกษาอยู่คู่ผู้บริโภค” เลอศักดิ์กล่าว

#vision #success