"Golden Buddha" พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ)
- advancedbizmagazine
- 7 มี.ค. 2558
- ยาว 1 นาที
มรดกล้ำค่าของไทย...ชื่อเสียงไกลไปทั่วโลก
สิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และเป็นมรดกของชาติ อันล้ำค่าคือพระพุทธรูป และพระพุทธรูปที่คนไทยสมัยโบราณสร้างไว้ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทยสมัยสุโขทัย บรรพบุรุษของเรามิใช่แค่สร้าง แต่ด้วยภูมิปัญญาของท่านทั้งหลายนี่แหละที่ท่านเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม กราบไหว้บูชา พระพุทธรูปองค์นั้นคือ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ)

หลวงพ่อทองคำ เป็นพระพุทธรูปทองคำองค์แรกของประเทศไทย ที่ได้รับการบันทึกลงในหนังสือกินเนสบุ๊ค ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก องค์พระพุทธรูปเป็นทองคำแท้ทั้งองค์หนัก 5.5 ตัน เป็นพระพุทธปางมารวิชัยศิลปะสมัยสุโขทัย มีพระพุทธลักษณะที่อ่อนช้อยงดงาม สร้างในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี มีอายุจนถึงปัจจุบันกว่า 700 ปี
ความเป็นมาของหลวงพ่อทองคำ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร สันนิษฐานว่า อัญเชิญองค์พระพุทธรูปมาจากสุโขทัย เพราะในสมัยรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ มีพระบรมราชโองการให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ไปอัญเชิญพระพุทธรูปตามวัดร้างในกรุงสุโขทัย และหัวเมืองเหนือทั้งปวงมายังกรุงเทพฯ ดังนั้นหลวงพ่อทองคำ อาจจะได้รับการอัญเชิญมาในครั้งนี้ด้วย โดยพระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ซึ่งสันนิษฐานว่าคนโบราณคงจะเอาปูนปั้นหุ้มไว้เพื่อปกปิดอำพรางตาพวกพม่าที่เข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา เพราะเกรงว่าพระพุทธรูปจะถูกเผาเอาทองไป พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับการอัญเชิญมาอยู่ที่วัดพระยาไกร ต่อมาวัดพระยาไกรชำรุดทรุดโทรมเป็นวัดร้าง จึงได้อัญเชิญองค์ท่านมาไว้ที่วัดไตรมิตรวิทยารามฯ และมีเหตุการณ์ที่พบว่าปูนตรงพระอุระแตกกะเทาะออก เห็นรักปิดทองอยู่ชั้นในเมื่อกะเทาะแกะปูนออกทั้งหมด เห็นเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์ พุทธลักษณะงดงามยิ่ง ใต้ฐานพระมีกุญแจกลสำหรับถอดองค์พระออกได้เป็น 9 ส่วน ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายองค์พระขึ้นไปประดิษฐานยังพระวิหารได้สำเร็จ และช่างในสมัยโบราณยังได้ใส่ทองคำสำรองสำหรับซ่อมแซมหากองค์พระชำรุด รวมทั้งมุกสำหรับใส่พระเนตรสำรองไว้ใต้ฐานพระด้วย
นี่คือความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ที่มีบุญวาสนาได้กราบพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ ต้องขอบคุณความสามารถและภูมิปัญญาของคนโบราณที่สามารถรักษาสมบัติอันทรงคุณค่านี้ไว้ให้ลูกหลานได้กราบไหว้บูชา มีความคิดรอบคอบที่สามารถนำปูนมาห่อหุ้มองค์พระ ทำให้รอดพ้นจากสายตาข้าศึก ไม่ถูกเผาเอาทองไป เมื่อไปที่วัดไตรมิตรฯ จะเห็นชาวต่างชาติมาเป็นระยะๆ มุ่งหน้ามาชมองค์พระอย่างต่อเนื่อง และรู้จักกันดีในนาม “Golden Buddha” วันที่ผู้เขียน และเพื่อนๆ ไปกราบท่าน สักพักหนึ่งมีฝนตกเป็นละอองเล็กๆ แป๊บเดียว เหมือนจะเป็นน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ โปรยมาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ไปกราบไหว้บูชา

ปัจจุบันองค์พระพุทธรูป หลวงพ่อทองคำ ประดิษฐานภายในพระมหามณฑปวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งแต่ละชั้นที่ 2- 4 มีนิทรรศการที่น่าชมเป็นอย่างยิ่ง คือ ชั้นที่ 2 เป็นศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช เป็นเรื่องราวที่คนจีนเข้ามาตั้งรกรากทำมาหากินในประเทศไทย ชั้นที่ 3 เป็นนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวพระพุทธรูปทองคำ เป็นประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อทองคำ ข้อสันนิฐานถึงสาเหตุที่มีการพอกปูนพระพุทธรูป เหตุการณ์ต่างๆ จนกระทั่งพระทองคำปรากฏ ชั้นที่ 4 เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร
ไปที่วัดไตรมิตรฯ (อยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟหัวลำโพง) ครั้งนี้ เห็นชาวต่างประเทศมาเที่ยวชมที่วัดไม่ขาดสาย เลยทำให้นึกถึงว่าคนไทยไปกราบบูชาหลวงพ่อทองคำกันแค่ไหน ว่างๆ ถ้าไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ขอเชิญชวนคนไทยทุกท่านไปกราบบูชาหลวงพ่อทองคำสักครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และสำหรับปีใหม่นี้ขออัญเชิญบารมีหลวงพ่อทองคำ ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก จงดลบันดาลให้ทุกท่าน สุขกาย สุขใจ พบแต่สิ่งดีๆ ในชีวิตตลอดไป และนี่คือ “มรดกล้ำค่าของไทย...ชื่อเสียงไกลไปทั่วโลก”

Comments